😎The Matrix 2

สรุปปม The Matrix ภาค 2 ในมุมของโลกของคอมพิวเตอร์

มาต่อกับหนัง The Matrix ภาค 2 กันว่ามันมีปมความ งง งวย อะไรอยู่บ้าง และแต่ละเรื่องมันคืออะไรกันแน่กันดีกั่ว

ในตอนแรกกะว่าจะไม่อธิบายเนื้อเรื่องเหมือนตอนที่สรุปภาค 1 แต่ทำไปทำมาพบว่า ทำไม่ได้จริงๆเพราะเนื้อเรื่องมันเจ้มจ้น และทุกอย่างมีเหตุมีผลของมันหมดเลย ดังนั้นขอเล่าเยอะโหน่ยเน๊อะ

แนะนำให้อ่าน ใครที่ยังไม่ได้อ่าน สรุป The Matix 1 ก็กดที่ลิงค์ฟ้าๆนี้ไปอ่านโลด และบทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องการทำ Computer Security ซึ่งผมได้อธิบายเป็นนิทานเอาไว้ โดยเพื่อนๆสามารถอ่านเข้าใจได้ง่ายๆโดยไม่ต้องมีความรู้เรื่องคอมเลยนะจุ๊

คำเตือน บทความนี้มีสปอยใครยังไม่เคยดูแนะนำให้ไปดูก่อนค่อยกลับมาอ่านต่อ โดย ดช.แมวน้ำ จะมาคลายข้อสงสัยของหนังเรื่อง The Matrix ทั้ง 3 ภาค ว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในหนังคืออะไรในโลกของวงการคอมพิวเตอร์นั่นเองครัช

บทความทั้งหมดที่สรุป The Matrix มา แมวน้ำไม่ได้มโนไปเอง แต่เป็นการวิเคราะห์ และไปค้นหาข้อมูลมาจริงๆ ซึ่งตามที่บอกไปว่าหนังเรื่องนี้ใช้หลักปรัชญาพุทธเยอะมาก และจริงๆไม่ได้มีแค่ของพุทธอย่างเดียว แต่แมวน้ำไม่ขอพูดถึงอย่างอื่นเพราะไม่รู้จริงกลัวจะให้ความรู้ผิดๆ แต่ทั้งหมดก็อาจมีข้อผิดพลาด ดังนั้นใครเจอจุดไหนฝากคอมเมนต์บอกด้วย จะได้เข้าใจ + ปรับแก้ให้ถูกต้องขอรับ (จะเข้าใจเนื้อหา Matrix ได้ทั้งหมดต้องอ่านหนังสือ ดูหนัง เล่นเกม ดูแมะ เยอะม๊วกผมยังทำได้ไม่หมดขนาดนั้นกั๊ฟ ต้องรบกวนผู้รู้อีกต่อนึง)

🤪 เก็บตก

ในภาคแรกมีคนถามมาว่า ตอนที่ Neo ไปเจอแมว แล้วเห็นภาคซ้ำซ้อน (เดจาวู) คืออะไรกันแน่?

🌎 ภาพซ้ำซ้อน - ในหนัง Morpheus ได้อธิบายว่าเวลาที่เกิดสิงผิดปรกติในระบบ Matrix แล้วระบบได้ทำการแก้ไขของบางอย่าง มันจะทำให้เกิดภาพซ้ำซ้อน (เดจาวู) ขึ้นมาได้ ซึ่งในหนังสิ่งที่โดนแก้ไขก็คือตัวตึกนั่นเอง ซึ่งเราจะเห็นว่าทุกทางออก ไม่ว่าจะเป็น ประตู หน้าตา หรืออะไรก็ตาม ถูกกำแพงปิดกั้นทางออกไว้หมดเลย

🖥️ ภาพซ้ำซ้อน - ในโลกของคอมพิวเตอร์ เวลาที่ระบบเกิดขึ้นผิดพลาดแบบ Computer Glitch นั้น ระบบส่วนใหญ่ก็จะต้องพยายามทำให้ตัวมันเองกลับมาทำงานใหม่ให้ได้ ซึ่งเราทุกคนน่าจะเคยผ่านประสบการณ์มาบ้าง เช่น บางทีก็อาจจะกระตุกไปพักนึง หรือโปรแกรมค้างไปชั่วครู่ และเลวร้ายหน่อยข้อมูลอาจจะเสียหายทำให้ระบบต้องทำการกู้คืนข้อมูลกลับมา ซึ่งการกู้คืนข้อมูลจะต้องย้อนกลับไปก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้มันพัง ดังนั้นพอระบบกู้เสร็จบางทีเราก็จะเห็นของเดิมๆที่เราเคยเห็นไปแล้วนั่นเอง

เด็กๆที่มีพลังจิตตอนที่ Neo ไปหาเทพพยากรณ์คืออะไร?

🌎 เหล่าผู้ที่มีศักยภาพ - ในหนังไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับเด็กเหล่านี้เลย แต่ในเนื้อเรื่องนั้นเทพพยากรณ์จะนำเด็กที่มีศักยภาพมาสอนด้วยตัวเอง โดยสิ่งที่สอนคือ ธรรมชาติของระบบ Matrix และการทำสมาธิเพื่อควบคุมสิ่งต่างๆในโลก Matrix นั่นเอง

และเด็กที่งอช้อนได้ ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่มีศักยภาพเช่นกัน โดยลักษณะการแต่งกายคือการเลียนแบบพระในศาสนาพุทธ

😇 ศาสดาโลก - จากที่ว่ามาตัวหนังจะสื่อเป็นนัยๆว่า เด็กเหล่านี้ก็คือศาสดาของศาสนาต่างๆทั่วโลก

🔥 Reloaded

เหตุการณ์ในภาคนี้เกิดขึ้นหลังจากภาคแรกผ่านไป 6 เดือนโดยเปิดเรื่องมาเราก็จะเห็น Trinity กำลังสู้กับสายลับคนหนึ่ง ซึ่งสุดท้ายเธอก็โดนยิงเข้าที่หน้าอกจังๆ และตกลงมาจากตึกตาย ทำให้ Neo สะดุ้งตื่นขึ้น และเฉลยว่าเหตุการณ์ตะกี้นั้นคือความฝันของ Neo

ตัดมาที่โลก Matrix เหล่ากับตันยานทั้งหลายได้มารวมตัวกัน นำโดยกับตัน Niobe (แฟนเก่า Morpheus) ได้แจ้งข่าวว่าพวก Sentinels (หุ่นยนต์ปลาหมึก) ประมาณ 250,000 ตัวกำลังบุกมาที่ Zion ซึ่งจะถึงในอีก 72 ชั่วโมง เลยต้องให้ยานทุกลำกลับไปที่ Zion โดยด่วน แต่ Morpheus ขอให้ทิ้งยานไว้ 1 ลำ เอาไว้ติดต่อเทพพยากรณ์ เพราะในตอนนี้ไม่สามารถติดต่อเทพยากรณ์ได้เหมือนเดิมอีกแล้ว ซึ่งการทิ้งยานไว้ถือว่าเป็นการขัดคำสั่งของ Lock ที่เป็นผู้บัญชาการใหญ่โดยตรง เลยเกิดเรื่องดราม่าในฝั่งของ Zion พักใหญ่ๆเลย

🖥️ การทิ้งยาน - การติดต่อกันในโลกของคอมพิวเตอร์นั้น โดยปรกติเราจะมีการสร้าง channel ในการติดต่อกัน ซึ่งมันจะมีรูปแบบมาตรฐานที่ทำให้คอมทั้ง 2 ฝั่งเข้าใจตรงกันได้ (เช่น port 80 คือของมาตรฐานในการคุยกันผ่าน internet ที่เราเรียกว่า HTTP protocal) ซึ่งในบางทีเราก็จะเปิด port แปลกๆที่ไม่ใช่ของมาตรฐานทั่วไปเอาไว้ให้คอมมันคุยกันแบบลับๆ ซึ่งตามปรกติ port ลับๆพวกนี้ เมื่อเราเลิกคุยกันแล้วก็จะปิดทิ้งไป ซึ่งการที่ Morpheus ขอให้ทิ้งยานก็คือการเปิด port ค้างไว้ เพื่อรอเทพพยากรณ์ติดต่อกลับผ่าน port เดิมนั่นเอง

ในขณะที่เกิดดราม่าอยู่นั้น เทพพยากรณ์ก็ติดต่อมายังยานที่ทิ้งไว้ในโลก Matrix เลยทำให้คนในยานรีบกลับไปแจ้งข่าวให้พวก Morpheus รู้ แต่อยู่ๆสายลับ Smith ก็โผล่พรวดเข้ามา แล้วทำการยึดร่างลูกเรือคนสุดท้ายที่ชื่อ Bane ไป ซึ่งทำให้ตอนนี้สายลับ Smith สามารถเข้าไปอยู่ในโลก Zion ที่เป็นโลกความจริงได้แล้วโดยที่ไม่มีคนรู้ตัวเลย

🖥️ การแทรกแซง - การที่คอม 2 เครื่องจะคุยกันแบบปลอดภัยได้จริงๆนั้นทำได้ยาก เพราะระหว่างที่เครื่อง A ส่งข้อมูลไปที่เครื่อง B มันจะผ่านอะไรบ้างเราไม่สามารถรู้ได้เลย ดังนั้นวิธีที่พวก Hacker ใช้โจมตีนั่นก็คือทำ Man-in-the-middle attack เพียงเท่านี้ HTTPS ก็จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เพราะมันสามารถหลอกได้กระทั่งว่า Certification นั้นเป็นของจริง (เช่นไปตั้ง gate พิเศษเพื่อทำการรับรอง cer แบบผิดๆว่ามันเป็นของ x ทั้งๆที่จริงๆเป็นของ y มันก็จะส่งผลให้ใครก็ตามที่ routing path ผ่าน gate นี้วิ่งไป x แทนที่จะเป็น y ได้ในระยะเวลาหนึ่ง) ดังนั้นมันก็ดักจับข้อมูลและแอบเปลี่ยนแปลงข้อมูลเราได้ และสุดท้ายเมื่อมี Secret Data หลุดไป มันก็จะปลอมแปลงเป็นเราได้ 100% ในทันที ซึ่งในหนังมันเป็นการบอกทั้ง 2 แง่มุมว่าตัว Zion นั้นถูกเจาะได้แล้ว ส่วนอีกแง่มุมคือเครื่องใน Zion ถูก Man-in-the-middle-attack แล้ว โดยคนที่หลอกจะบอกให้อีกฝั่งทำอะไรก็ได้ เพราะอีกฝั่งเชื่อว่าฝ่ายที่กำลังคุยด้วยปลอดภัย (ปล.การเปิด port คุยกันเองแล้วจัดการ security แบบไม่ได้มาตรฐาน ก็จะทำให้คอมหรือเซิฟเวอร์เครื่องนั้นถูกเจาะได้อย่างง่ายๆเลยเช่นกัน)

😋 ยกตัวอย่างเพิ่มโหน่ย - สมมุติว่าเราจะทำธุรกรรมผ่านเว็บ ซึ่งเว็บที่เข้าก็เป็นของธนาคารจริงๆ เป็น HTTPS จริงๆ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ามันปลอดภัย? เช่น เราต่อ Wifi สาธารณะที่เขาแอบทำ Man-in-the-middle อยู่ นั่นหมายความว่า ทุกอย่างที่เราทำมันจะต้องผ่านคนร้ายก่อนเสมอ และคนร้ายค่อยส่ง request ของเราไปที่ปลายทางอีกต่อนึง แล้วความลับของเราก็จะไม่เป็นความลับอีกต่อปาย

หลังจากที่มาแจ้งข่าวเรื่องการติดต่อมาของเทพพยากรณ์ พวก Neo เลยเตรียมเดินทางไปพบเธอ แต่ก่อนที่ Neo จะเดินทางไปยังโลก Matrix ก็มีเด็กกำพร้าคนนึงฝากของขวัญมาให้กับ Neo พร้อมกับฝากข้อความมาว่า เมื่อ Neo เห็นของขวัญชิ้นนี้ก็จะเข้าใจเอง ซึ่งเมื่อ Neo เปิดดูก็พบกับช้อน 1 คัน จากนั้นก็ยิ้มอย่างเข้าใจความหมาย โดยปล่อยให้คนดู งง ต่อไปว่าอิหยังวะ

🌎 ช้อนคืออะไร - ในหนังได้สื่อเป็นนัยๆว่า เด็กพลังจิตที่งอช้อนได้ในภาคแรก เขาได้หลุดพ้นออกจากโลกของ Matrix ได้แล้วแค่นั้นแหละ เพราะตอนที่ Neo ได้รับช้อนนั้น เขาอยู่ในโลกความเป็นจริงนั่นเอง

😇 หลุดพ้น - จากตรงนี้หนังได้ใช้แนวคิดของการนิพพานของพระพุทธเจ้า ว่าการหลุดพ้นนั้นคือการที่มนุษย์ธรรมดาสามารถเข้าใจ และหลุดออกจาก Matrix ได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ตื่นขึ้นเพราะการกินยาสีแดง หรือ ตื่นขึ้นเพราะการเห็นว่า Matrix ไม่สมจริง

แล้ว Neo ได้เดินทางเข้าไปใน Matrix เพื่อไปหาเทพพยากรณ์ แต่ก็ได้พบเพียง Seraph ที่เป็นบอดี้การ์ดของเทพพยากรณ์อยู่เพียงคนเดียว ซึ่งจุดน่าสนใจคือ Neo มองเห็นเขามีร่างเป็นสีทอง และเขาก็ขอพิสูจน์ว่าเป็น Neo ตัวจริงหรือเปล่าด้วยกำปั้น

🌎 ร่างสีทองคือไร? - โดยทั่วไปสิ่งที่อยู่ใน Matrix จะเป็นโค้ดสีเขียวๆ ซึ่งหนังเขาสื่อว่ามันเป็นพวก Data หรือพวก Software ที่เป็นแค่ของสมมุติเท่านั้น (Logical) แต่สิ่งที่เป็นสีทองนั้นในหนังจะเฉลยในตอนท้ายๆของภาค 3 ว่ามันคือเครื่องจักรที่มีอยู่ในโลกจริง (Physical) ซึ่งเราจะเห็นตอนที่ Neo ไปเห็นเมืองจักรกล

🖥️ พิสูจน์ด้วยหมัด - อย่างที่บอกไปด้านบนว่าบอดี้การ์ดนั้นเป็นเครื่องจักร และเขาขอพิสูจน์ว่าเป็น Neo ตัวจริงหรือเปล่าโดยการสู้กัน ซึ่งในโลกของวงการคอมพิวเตอร์นั้นเรื่องนี้คือการพิสูจน์ (Prove) เพื่อทำการยืนยันตัวตน (Authentication) นั่นเอง ซึ่งปรกติระบบจะไม่เชื่อว่าใครเป็นใครจนกว่าจะถูกพิสูจน์ได้ เช่นการทำ Public & Private Keys โดยเราจะเชื่อเฉพาะคนที่มี Private Key เท่านั้น ซึ่งในหนังจะมีแค่เพียง The One เท่านั้นที่จะสามารถสู้กับบอดี้การ์ดได้ ดังนั้นพอสู้กันไปซักพักบอดี้การ์ดจึงยอมเชื่อว่าเป็น Neo ตัวจริง

บอดี้การ์ดได้พา Neo ไปหาเทพพยากรณ์โดยผ่านห้องที่มีแต่ประตูๆๆ โดยตัวเขาเองก็เข้ามาด้วย

🖥️ Machine Authenticator - ในวงการคอมพิวเตอร์การเก็บรหัสลับนั้นมีหลายแบบ ซึ่งในหนังเป็นรูปแบบที่เราเก็บ Secret Key ไว้ที่ตัว Hardware เพราะเจ้าบอดี้การ์ดเป็นคนเสียบกุญแจเปิดประตูให้

Neo ได้มาพบกับเทพพยากรณ์ ซึ่งนั่งจีบกันไปซักพักหนังก็เฉลยหมดตัวว่า เธอเป็นหนึ่งในโปรแกรมหลักที่ทำให้ Matrix สมบูรณ์ขึ้น เลยทำให้ Neo อดสงสัยไม่ได้ว่า แล้วตูจะเชื่อทางเลือกต่างๆของเอ็งได้ไง? ซึ่งเจ้าหล่อนตอบว่า เอ็งไม่ได้มาหาทางเลือก เอ็งน่ะเลือกก่อนมาหาตูแล้วต่างหาก แต่ประเด็นที่เอ็งมาหาตูจริงๆก็เพราะ มาเรียนรู้ว่าทำไมถึงเลือกแบบนั้นไป แล้วเจ้าหล่อนก็ได้พล่ามต่อว่าโปรแกรมเก่าที่จะถูกลบทิ้งบางทีก็หนีโดยการ hack โปรแกรมอื่น หรือไม่ก็จะกลับไปที่ The Source และบอกให้ Neo ต้องไปหา The Source เพราะนั่นคือทางเดียวที่จะช่วย Zion ได้ แต่เอ็งต้องเลือกระหว่างจะช่วยแฟนสาว (Trinity) หรือให้คนใน Zion ทั้งหมดรอด ส่วนการจะไปที่ The Source จะต้องมีช่างทำกุญแจ แต่เขาโดนโปรแกรมที่ชื่อ Merovingian (เมโรวินเจี้ยน) จับตัวไว้อยู่ ดังนั้นเอ็งต้องไปคุยกับ Merovingian เพื่อขอช่างทำกุญแจซะ!!

🌎 เทพพยากรณ์ - เจ้าหล่อนจริงๆถูกโปรแกรมมา 2 ภารกิจ ซึ่งอันแรกคือสร้างตัวเลือกให้กับคนใน Matrix และอีกภารกิจคือ ชักจูงให้ Neo ไปหา The Source (หนังเฉลยไว้ในฉากนี้โดยพูดอ้อมๆว่าทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง และฉันก็มาที่นี่ด้วยเรื่องนั้นเหมือนกัน)

🌎 การแบ่งฝ่ายของโปรแกรม - จากคำพูดของเทพพยากรณ์ในฉากนี้ จะทำให้เรารู้ว่าในโลกของ Matrix เองนั้น ตัวโปรแกรมก็ยังแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือ ฝั่งที่ดำเนินการตามที่ระบบ Matrix สั่ง และ ฝั่งที่เป็นโปรแกรมล้าสมัย (โปรแกรมล้าสมัยอาจเป็นเพราะมีโปรแกรมอื่นที่ดีกว่าหรือมันไม่จำเป็นต้องมีในระบบนี้แล้ว) ซึ่งพวกโปรแกรมล้าสมัยส่วนใหญ่จะถูกลบทิ้ง แต่ก็มีบางส่วนแอบซ่อนจากการถูกลบทิ้งอยู่ในโลก Matrix ต่อ

🖥️ AI - ในวงการคอมพิวเตอร์ตัว AI จริงๆมันไม่สามารถตอบได้ว่าควรจะเลือกอันไหนกันแน่ ดังนั้นเราจะไม่เคยเห็นเทพพยากรณ์บอกมาตรงๆเลยว่าควรจะเลือกอันไหน แต่จะโยนให้อีกฝั่งตัดสินใจเอง เพราะ AI สุดท้ายหลังจากที่มันวิเคราะห์เสร็จมันก็จะได้แค่ตัวเลขค่าความมั่นใจ (Confident) ออกมา แล้วมันก็จะเลือกเอาตัวที่ค่าความมั่นใจสูงๆ แต่ถ้าเลือกแล้วมันผิดละก็ ตัว AI ก็จะทำการปรับสูตรในการคำนวณใหม่ เพื่อให้ได้ค่า confident ที่ใกล้เคียงความจริงที่สุดออกมานั่นเอง

แต่ในหนังจะมี ฉากนี้จุดเดียวเลยที่เทพพยากรณ์สั่งให้ Neo ไปหา The Source เพราะมันคือสิ่งที่ถูกกำหนดไว้ใน source code แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น

🖥️ ช่างทำกุญแจ - การที่จะไปหา The Source ได้จะต้องผ่าน Authenticator เช่นเดียวกัน ดังนั้น Neo เลยต้องไปหาช่องทำกุญแจเพื่อเอา Secret Key ไปใช้ในการเข้าถึง The Source (ขอพักตรงนี้เอาไปเฉลยตอนไปหา The Source นะ)

แล้วสายลับ Smith ก็เข้ามาเป็น กขค โดยสายลับ Smith ได้บอกว่า Neo ได้ปลดปล่อยเขา ทำให้เขาได้รู้ความจริง และเลือกที่จะไม่ทำตามคำสั่งของ Matrix อีกต่อไป ดังนั้นตอนนี้เขาถูกปลดปล่อยจึงไม่สามารถเป็นสายลับได้อีก และเขาก็ได้ระบายออกมาถึงการไม่มีตัวตน ไร้ซึ่งเจตนา ไร้ซึ่งแรงผลักดัน ที่จะทำอะไรต่อในชีวิต ดังนั้นเจตนาสุดท้ายก็คือการทำลาย Neo และ Matrix นั่นเอง แล้วทั้งคู่ก็ตบกับชุลมุน แต่ยิ่งสู้ Neo ก็ยิ่งเสียเปรียบเพราะสายลับ Smith มีจำนวนโคตรเยอะ Neo เลยต้องบินเผ่นป่าราบไปก่อน

🌎 สายลับ Smith แยกเงาพันร่าง - ตอนที่สายลับ Smith แพ้ Neo ในภาค 1 ทำให้ระบบตัดสินใจลบเขาทิ้ง เพราะระบบได้พัฒนาสายลับอันใหม่ที่ดีกว่ามาแทนที่แล้ว แต่ว่าตอนที่ถูก Neo ทำลายนั้นเขาได้ถูกบางอย่างในตัว Neo กระตุ้นการรับรู้ ทำให้เขาเข้าใจตัว Matrix มากขึ้น และเลือกที่จะปฎิเสธคำสั่งการลบทิ้งนี้ และผันตัวเองกลายมาเป็น Computer Virus แทน และเพื่อที่จะจัดการ Neo เขาเลยทำการแพร่ Virus ตัวเขาเองให้กับระบบ Matrix เพื่อที่จะทำลายทั้ง Matrix และ Neo นั่นเอง

หลังจาก Neo บินหนีไปเขาได้บอกว่าตัวเขาเองเป็นแค่ Smith ไม่ใช่สายลับ Smith อีกต่อไป

😇 ปล่อยไม่ลง - ในทางพุทธศาสนายิ่งเราวิ่งตามหามากเท่าไหร่ ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น หรือ กิเลส ก็จะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆจนไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นยิ่ง Smith ไขว่คว้ามากขึ้นเท่าไหร่ กิเลสที่เป็นตัวตนของเขาก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

(ขอแวะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับฝั่ง Zion หน่อยเดี๋ยวจะ งง) ในขณะนี้ทาง Zion กำลังเครียดเพราะพวกหุ่นยนต์กำลังบุกมา ซึ่งถ้ามันเขามาได้มนุษย์ทั้งหมดที่เหลือก็จะถูกกำจัดทิ้ง ผู้บัญชาการ Lock เลยขอยานทุกลำไว้ป้องกันเมือง แต่ฝั่งคณะมนตรีก็เชื่อในตัวคำทำนายว่า Neo จะสามารถหยุดสงครามครั้งนี้ได้ เลยขอให้ส่งยาน 2 ลำไปสนับสนุน Morpheus ซึ่งทำให้ผู้บัญชาการ Lock กริ้วมาก

🌎 คำทำนาย - ตั้งแต่สงครามระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์เกิดขึ้นนั้น ก็มีคำทำนายเก่าแก่ว่า ซักวันจะมีคนที่เป็น The One มายุติสงครามทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นในหนังเราจะได้ยินหลายคนเรียก Neo ว่า หนึ่งเดียว และในหนังเราจะเห็นว่าคนใน Zion จะเคารพและรัก Neo มาก

ในฝั่งโลก Matrix พวก Neo ก็มาหา Merovingian เพื่อจะมาขอตัวช่างทำกุญแจไป ซึ่งในการเจรจาขอตัวช่างทำกุญแจนั้น Merovingian จะพูดถึง เหตุและผล ให้ Neo ฟัง โดยยกตัวอย่างเป็นการส่งเค้กที่แอบฝังโปรแกรมพิเศษไปให้ผู้หญิงโต๊ะด้านหลังกิน ซึ่งพอเจ้าหล่อนแดร๊กเข้าไปปุ๊ป หล่อนก็สำเร็จความใคร่จนต้องขอตัวไปห้องน้ำทันที 😖

หลังจากนั้นฝั่ง Neo กับ Merovingian ก็เถียงกันเรื่องการขอตัวช่างทำกุญแจ ซึ่งผลสรุปคือ Merovingian ก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ (สาเหตุจริงๆอ่านได้จากด้านล่าง) และขี้เกียจคุยต่อแล้ว เลยไล่พวก Neo กลับไปแบบที่ยัง งงๆ อยู่ (รวมถึงคนดูก็ งง ด้วย)

เป็นหนึ่งในฉากที่คนดูก็ งง พอกันว่ามันพูดบ้าอะไรของมัน

🌎 เค้กที่ส่งไป - ตัว Merovingian ต้องการจะสอน Neo เรื่องเหตุและผล ดังนั้นเขาเลยสร้างเค้กที่แอบฝังโค้ดพิเศษนี้ขึ้นมาเพื่อบอกว่า

เค้กที่ใส่โค้ดพิเศษคือตัวต้นเหตุ แล้วเมื่อผู้หญิงโต๊ะนั้นแดร๊กลงไปมันก็จะ ส่งผลให้หล่อนสำเร็จความใคร่

ซึ่งเหตุที่เกิดบรรทัดบนนั้นเกิดจาก

Neo เป็นตัวต้นเหตุ ให้ Merovingian สร้างเค้กพิเศษนี้ขึ้นมา เพื่อสอนให้ Neo เข้าใจเรื่องเหตุและผลเลย ส่งผลให้เค้กพิเศษนี้ถูกสร้างขึ้นมา

อ่านแล้วอาจจะ งงๆ ประเด็นที่แท้จริงของ Merovingian ที่ต้องการจะสื่อคือ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกของโปรแกรม มันมีเหตุและผลในตัวมันเองเสมอ

🖥️ เหตุและผล - ในโลกของการทำซอฟต์แวร์นั้น การที่เราจะเขียนซอฟต์แวร์ออกมาซักตัวมันจะต้องเริ่มจาก ความต้องการของลูกค้า (Requirements) แล้วเหล่าโปรแกรมเมอร์ก็จะเปลี่ยนมันกลายมาเป็นโค้ด ซึ่งสุดท้ายหัวใจหลักของโค้ดเราจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า Bussiness Logic หรือ Business Flow อยู่ด้วยเสมอ ดังนั้นทุกการตัดสินใจทำสิ่งต่างๆของตัวซอฟต์แวร์ก็จะขึ้นอยู่กับ เหตุ (Input) แล้วส่งผ่าน Business Logic ไปประมวลผลเพื่อออกมาเป็น ผลลัพท์ (Output) นั่นเอง

🌎 การตัดสินใจของ Merovingian - ในหนังไม่ได้บอกตรงๆ แต่แอบบอกไว้ในพฤติกรรมของเขาว่า Merovingian รู้ถึงสงครามนี้ และเชื่อว่าหุ่นยนต์จะเป็นฝ่ายชนะ ดังนั้นจากเหตุผลนี้ เขาเลยเลือกที่จะอยู่ข้าง Matrix โดยไปจับตัวช่างทำกุญแจมาขังไว้ตั้งแต่เริ่มแรกเลย เพื่อป้องกันไม่ให้ The One สามารถเข้าไปหา The Source ได้นั่นเอง

😇 เหตุและผล - ในพุทธศาสนาได้สอนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกๆเหมือนกันนั่นคือ ปฏิจจสมุปบาท หรือที่คุ้นเคยกันก็คือ อริยสัจ 4 นั่นเอง

🌎 Merovingian จริงๆคืออะไร - ในฉากที่ Neo คุยกับเทพพยากรณ์นั้น หล่อนได้บอกว่า Merovingian คือโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่เก่าแก่ว่าเธอเสียอีก ซึ่งถ้าวิเคราะห์ตาม Timeline ของ Matrix ก็จะพบว่าโปรแกรมเทพพยากรณ์ถูกสร้างมาเพราะ Matrix เวอร์ชั่นแรกไม่สมบูรณ์ ดังนั้น Meovingian นั้นเกิดมาตั้งแต่ Matrix เวอร์ชั่นแรกเลยนั่นเอง

ในระหว่างลงลิฟต์กลับ Neo กับ Morpheus ก็ถกกันเรื่องคำทำนายไม่เห็นตรงนิหว่า แต่สุดท้าย Persephone (เมียของ Merovingian) ก็มาช่วยพาไปหาช่างทำกุญแจ โดยแลกกับจูบอันดูดดื่มของ Neo ซึ่งเกือบโดน Trinity แต้มจุดกลางหน้าผากแบบหญิงอินเดียด้วยตะกั่ว เพราะเธอสุดจะทนกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของ Merovingian แล้ว แน่นอนมีหรือ Neo จะพลาด(เป็นผมก็ไม่พลาด) เลยจัดไป

🌎 จูบทำไม? - ตัว Merovingian นั้นสมัยก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้ (หมายถึงตั้งแต่ Matrix รุ่นแรกๆเลย) ซึ่งสมัยก่อนตัว Merovingian นั้นรัก Persephone มาก ซึ่งเหมือนกับที่ Neo รัก Trinity เลย แต่หลังจากที่เปลี่ยนเวอร์ชั่นของ Matrix ทำให้ Merovingian ก็เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ตกยุคต้องถูกลบออก ทำให้นิสัยเขาเปลี่ยนไปไม่ได้รัก Persephone เหมือนเดิม แถมเสเพลไปเรื่อย ทำให้เจ้าหล่อนโหยหาความรู้สึกวันวานอันหวานอยู่ เลยขอความรู้สึกนั้นกลับมาผ่าน Neo โดยขอให้ Neo จูบเธอแบบเดียวกับที่จูบ Trinity งุย

แล้วหล่อนก็พาไปคฤหาสน์ลับที่ช่างทำกุญแจถูกขังไว้ โดยระหว่างทางก็ได้เจอกับลูกน้องของ Merovingian 2 คนคือ Cain กับ Abel ซึ่งเจ้าหล่อนก็อธิบายว่าเจ้า 2 คนนี้ก็คือโปรแกรมที่ตกยุคไปแล้ว แต่สามีหล่อนเก็บเอามาใช้งานต่อ แล้วเจ้าหล่อนก็เอากระสุนเงินเจิมหน้าผากให้ Abel ไปนอนกองกับพื้น แล้วไล่ให้ Cain ไปแจ้งข่าวให้ผัวหล่อนทราบ แถมทิ้งท้ายว่าสามีเธอตอนนี้อยู่ในห้องน้ำหญิง

🌎 Cain กับ Abel - จุดนี้หนังได้แอบบอกไบ้ไว้ว่า Cain กับ Abel นั้นเป็นโปรแกรมที่ตกยุคแล้ว และพวกเขาทั้ง 2 คือ โปรแกรมมนุษย์หมาป่าที่มาจากเซ็ตของเซ็ตแวมไพร์ซอฟต์แวร์ ซึ่งในหนังภาคแรกได้บอกว่า Matrix เวอร์ชั่นแรกนั้นสงบสุขมากเกินไป ซึ่งมนุษย์แท้จริงไม่ได้แสวงหาสันติ เลยทำให้คนในยุคนั้นตื่นจาก Matrix กันหมด เลยเกิด Matrix เวอร์ชั่นถัดมาที่ใส่ความกลัว ลงไปด้วย ซึ่งแวมไพร์ซอฟต์แวร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ Matrix เวอร์ชั่น 2 ก็ยังไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดเวอร์ชั่นถัดไป เลยทำให้พวกแวมไพร์ซอฟต์แวร์ก็ตกยุคไปเช่นกัน

🌎 Merovingian คืออะไรกันแน่ - ตัวหนังไม่ได้บอกอะไรไว้เลย แต่เท่าที่รู้หน้าที่ของ Merovingian ใน Matrix รุ่นก่อนคือเอาไว้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ดังนั้นของแทบจะทุกอย่างจะต้องผ่าน Merovingian ก่อน เลยทำให้ Merovingian สามารถหลบหนีการถูกลบทิ้งได้ และเขาก็ได้รวบรวมเหล่าโปรแกรมต่างๆที่จะถูกลบทิ้งไว้เป็นกองทัพของตัวเอง

หลังจากที่พวก Neo ช่วยช่างทำกุญแจมาได้ ก็กลับออกมาเจอกับกองทัพของ Merovingian ทั้งสองเลยได้ต่อสู้กันเพื่อชิงตัวช่างทำกุญแจ โดยในฉากนี้เราก็จะเห็นความสามารถของคู่แฝด ซึ่งก็เป็นหนึ่งในโปรแกรมตกยุคสมัย Matrix เวอร์ชัน 2 ที่มีความสามารถในการข้ามสิ่งกีดขวางได้

🌎 แผนของ Persephone - ตามที่เจ้าหล่อนบอกไปว่าสุดจะทนกับพฤติกรรมของสามีแล้ว เจ้าหล่อนเลยวางแผนที่จะปิดเรื่องนี้โดยการให้พวก Neo ได้ปะทะกับกองทัพสามี และได้ตัวช่างทำกุญแจเพื่อจบๆเรื่องสงครามทั้งหมดนั่นเอง

ระหว่างไล่ล่ากันเราจะได้เห็นความสามารถของช่างทำกุญแจคือ ลุงแกมีกุญแจทุกอย่างที่อยู่ในโลก Matrix

🖥️ ช่างทำกุญแจ - ในโลกของซอฟต์แวร์ ช่างสร้างกุญแจนั้นมีความหมายหลายอย่างเลย แต่หน้าที่หลักๆคือการได้มาซึ่ง Secret Key ซึ่งอาจจะได้มาแบบบริสุทธิ์ เช่น จากกระบวนการสร้าง Asymmetric Key หรือแบบไม่บริสุทธิ์ เช่น การทำ Bruteforce Attack

และในการไล่ล่านั้นมีพวกสายลับเข้ามาร่วมปาร์ตี้ ด้วยซึ่งจุดที่น่าสนใจอีกจุดคือ สายลับในรอบนี้เปลี่ยนไป พวกมันไม่สนใจสิ่งที่แอบเข้ามาในระบบแบบพวก Morpheus เลย แต่พุ่งเน้นไปที่การกำจัดช่างทำกุญแจ เท่านั้น

🌎 กำจัดช่างทำกุญแจ - พฤติกรรมของระบบ Matrix เปลี่ยนไปโดยไม่สนใจคนนอกที่แอบเข้าระบบ เพราะตัว Matrix รู้ว่า Keypoint ของระบบจะอยู่หรือรอดนั้นขึ้นอยู่กับ Neo จะไปถึง The Source ได้หรือไม่ ดังนั้นตัวระบบเลยพยายามขัดขวางไม่ให้ Neo ได้ช่างทำกุญแจที่เป็นหนทางเดียวที่รู้ว่าจะไปถึง The Souce ได้ยังไง

หลังจากที่หนีออกมาได้ช่างทำกุญแจก็อธิบายว่าจะไปหา The Source ได้ยังไง โดยเขาอธิบายว่ามันอยู่ในตึกที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงสุด ทางเดียวที่จะไปหาจะต้องผ่านห้องที่มีแต่ประตูๆๆโดยมีแค่ประตูเดียวที่เป็นประตูที่ถูกต้อง และก่อนเข้าจะต้องตัดไฟก่อนเข้าไปก่อนไม่งั้นจะระเบิด แล้วเมื่อเข้าไปได้ก็จะเจอประตูที่มีแต่คนที่เป็น The One และจะต้องมีกุญแจที่ถูกต้องเท่านั้นถึงจะเข้าไปได้ ดังนั้นจะต้องส่งทีมออกไปจัดการกับตึกที่เป็นระบบสำรองไฟก่อนถึงจะเริ่มเข้าไปได้ โดยมีเวลาแค่ 314 วินาทีเท่านั้น

🖥️ ระบบซอฟต์แวร์ - ในจุดนี้หนังได้พูดถึงการจัดการระดับ Infrastructure ของซอฟต์แวร์นั่นคือการทำ Reliable Software ซึ่งบอกเลยว่าอธิบายลงลึกแต่ละเรื่องได้เป็นอาทิตย์ๆเลย แต่ตัวใจหลักของมันคือการทำ 2 เรื่องนั่นคือ

  • Resilient - สอนจัดการรับมือเมื่อ ระบบล่มจะกู้ ระบบ กับ ข้อมูล กลับคืนมาได้ยังไง?

  • Highly Available (HA) - สอนจัดการออกแบบให้ระบบล่มได้ยากที่สุด หรือต่อให้ล่มจะต้องแทบไม่มี downtime

ซึ่งหนังเขาจะแสดงให้เห็นถึงหลายๆเรื่อง เดี๋ยวอธิบายต่อด้านล่าง แต่จุดนี้เขาสื่อถึงการป้องกัน Single point of failure เพราะแต่ระบบมันมีการ Backup ไฟฟ้านั่นเอง

🖥️ The One ที่มีกุญแจที่แท้จริงเท่านั้น - ตรงนี้หนังเฉลยไปในตัวเรียบร้อยเลยว่าประตูที่จะเข้าสู่ The Source ได้นั้นเป็นการ Authentication โดยใช้ Digital Signature

🖥️ ประตูหลายบาน - ในศาสตร์ของ Computer Security นั้นมีหลักการในการรักษาความปลอดภัยของระบบหลายเรื่อง ซึ่งประตูลวงก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งหลักตัวนี้คือ Security by Obscurity หากใครอยากรู้ว่ามันมีอะไรบ้าง แนะนำให้ไปอ่านที่บทความนี้ครับ Security Principles

🖥️ การป้องกันหลายๆชั้น - เป็นหนึ่งในหลักของ Computer Security เช่นกัน นั่นคือ Defense in Depth

ก่อนที่แผนการทั้งหมดจะเริ่ม Neo ได้ขอไม่ให้ Trinity เข้าไปในโลก Matrix ในครั้งนี้ เพราะ Neo รู้ว่า Trinity จะต้องตายหากเธอเข้าไป ซึ่ง Trinity ก็รับปากสัญญาว่าจะไม่เข้าไปในครั้งนี้

เมื่อแผนการเริ่มขึ้นก็มีปัญหาเพราะยานของแฟนเก่าของ Morpheus โดน Sentinels บุกมา และทำในสิ่งที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นคือการปาระเบิดมาทำลายยานจากระยะไกล เลยทำให้คนในยานทั้งหมดตาย ซึ่งส่งผลให้ทีมที่มาทำลายระบบไฟฟ้าสำรองตายเกลี้ยง โดยที่ยังทำภารกิจไม่สำเร็จ

เลยทำให้ Trinity ยอมผิดสัญญาที่ให้กับ Neo เข้าไปในโลก Matrix เพื่อไปทำลายระบบไฟฟ้าสำรองแทนทีมที่ตายไป ไม่อย่างนั้น ทันทีที่พวก Neo เปิดประตูบานแรกระเบิดที่ติดตั้งไว้ก็จะทำงาน ทำให้ตายกันหมดแน่นอน ซึ่งสุดท้าย Trinity ก็สามารถปิดระบบไฟสำรองได้แบบฉิวเฉียด

ส่วนทาง Neo ก็เจอฝูง Smith ดักรอที่ห้องแห่งประตู ก็เลยไฟ้ววววกันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ช่างกุญแจจะเปิดประตูพาพวก Neo เข้ามาในห้องสุดท้ายได้ โดยแลกกับชีวิตของเขาเอง

ซึ่งก่อนที่ช่างทำกุญแจจะตาย เขาก็ได้มอบกุญแจให้กับ Neo เพื่อไปเปิดประตูบานสุดท้ายที่มีแค่ Neo เท่านั้นที่จะรู้ว่าเป็นบานไหน และบอกทางให้ Morpheus กลับไป Zion ก่อน

🖥️ Storing Secret Strategy - ตรงจุดนี้จะเห็นว่าช่างทำกุญแจไม่ได้เดินมาเปิดประตูให้ Neo แต่เป็นการส่งกุญแจให้ไปไขเปิดเอง ซึ่งต่างจากที่บอดี้การ์ดของเทพพยากรณ์ไขเปิดประตูให้ ซึ่งในโลกของคอมพิวเตอร์เราสามารถเก็บ Secret Key ไว้ได้หลายวิธีเลย เช่นเก็บไว้เอง หรือ เก็บไว้ในที่ที่เราคิดว่าปลอดภัย เช่น ในเซิฟเวอร์ ในฮาร์ดแวร์ บลาๆ

เมื่อเข้ามา Neo ก็ได้พบกับห้องที่มีแต่หน้าจอเต็มไปหมดและเจอผู้เฒ่าที่บอกว่าตัวเองคึอ The Architect (สถาปนิก)

ซึ่งนี่น่าจะเป็นจุดที่ งง ที่สุดในทั้ง 3 ภาคแล้วว่าไอ้สองคนนี่คุยบ้าไรกัน แมวน้ำเลยขอสรุปสั้นก่อน ส่วนรายละเอียดอ่านต่อด้านล่าง

ผู้เฒ่าได้เล่าให้ฟังถึงโลก Matrix ตั้งแต่เวอร์ชั่นแรกจนถึงเวอร์ชั่นปัจจุบันคือเวอร์ชั่น 5 ซึ่งทุกครั้งที่จะเปลี่ยนเวอร์ชั่นได้จะต้องมีโปรแกรม The One เข้าไปที่ The Source เพื่อทำการอัพเกรดตัว Matrix และเมื่อ The One เข้าไปใน The Source ก็จะสามารถเลือกเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่จะอยู่รอดเป็น หญิง 16 คน ชาย 7 คน ไปตั้งต้นในเมือง Zion ใหม่อีกครั้ง เพราะคนใน Zion ตอนนี้ยังไงก็จะต้องตายเพราะหุ่นยนต์ Sentinels 250,000 ตัวที่ส่งไปอยู่ดี

🌎 ผู้เฒ่าสถาปนิกคืออะไร - ในหนังผู้เฒ่าจะบอกว่าตัวเองคือ ผู้สร้าง The Matrix ตั้งแต่รุ่นแรก นั่นหมายความว่าผู้เฒ่าคนนี้คือโปรแกรมที่มีสิทธิ์เป็นผู้ดูแลระบบ (Administrator) ของระบบ Matrix มาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม โดยเขามีหน้าที่วิเคราะห์ว่าระบบ Matrix นั้นยังขาดอะไรอยู่ เช่นยุคแรกของ Matrix มันขาดความสมจริง เขาเลยเพิ่มโปรแกรม The Oracle หรือที่รู้จักกันในชื่อ เทพพยากรณ์ลงไป เพื่อเพิ่มความสมจริง เพราะมนุษย์ชอบทางเลือก

🌎 The One โปรแกรม - ตามที่ผู้เฒ่าได้บอกว่าทุกครั้งที่ Matrix เปลี่ยนเวอร์ชันจะต้องใช้ชีวิต The One เสมอ ดังนั้นหมายความว่าคนที่เป็น The One ทุกคนที่ผ่านมา ได้เลือกที่จะเข้าไปยัง The Source โดยทิ้งให้ชาว Zion ทั้งหมดตาย แล้วเดี๋ยวผ่านไปอีกซักพักใหญ่ๆ ก็จะมี The One คนใหม่เกิดขึ้น ซึ่งก็จะโดน เทพพยากรณ์ชี้นำมายัง The Source วนไปเรื่อยๆแบบนี้ไม่รู้จบ จนกว่าระบบ Matrix จะสามารถอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์แบบได้ ก็จะถือว่าโปรแกรม The One และชาว Zion ก็จะไม่จำเป็นอีกต่อไป

🌎 ทำไม The One ต้องเข้าไปใน The Source - ตามภาคแรกที่อธิบายไปว่า Neo คือมนุษย์ที่ถูกเลือกจากโปรแกรม The One ทำให้เขามีความผิดปรกติในมุมของ Matrix เพราะทำสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปทำไม่ได้ และ Matrix มี AI ที่ใช้ในการเรียนรู้เพื่อทำให้ตัวระบบมันเก่งขึ้นไปเรื่อยๆทุกๆการอัพเกรด ดังนั้น Neo คือแหล่งความรู้ชั้นเลิศในการอัพเกรด

🌎 ทำไมต้องให้ The One เลือกให้มนุษย์รอด 23 คน - ตามที่เคยบอกไว้ว่า The One คือสิ่งที่ AI ยังไม่เคยเรียนรู้ ดังนั้นมนุษย์ที่ The One เลือกก็ย่อมน่าจะเป็นสิ่งที่ AI สามารถเรียนรู้ต่อได้ และรวมถึงปัจจุบันมนุษย์ที่อยู่ใน Zion มีเยอะเกินไป ทำให้ระบบมองว่าเป็นภัย ดังนั้นระบบเลยเลือกที่จะปล่อยให้มีมนุษย์หลงเหลือแต่ในปริมาณที่น้อย เพื่อง่ายต่อการควบคุม และมนุษย์เหล่านั้นจะได้ไปสร้างฐานกำลังเพื่อใช้ชุบเลี้ยง The One คนถัดไป

🌎 ปัญหาของระบบ Matrix ที่ซ่อนอยู่ - ตามที่ผู้เฒ่าบอกว่าระบบ Matrix ตัวนี้ยังไม่สมบูรณ์ มันเลยทำให้บางที มนุษย์ก็จะรู้สึกตัวว่าโลกที่กำลังอยู่นี้แปลกๆ และตื่นออกจากโลก Matrix ซึ่งถือเป็นการสูญเสียพลังงานของพวกหุ่นยนต์ และมนุษย์ที่อยู่ใน Zion ก็ขยายพันธุ์กันเร็วซึ่งอาจจะก่ออันตรายต่อระบบได้ ดังนั้นประมาณทุกๆ 100 ปี จะต้องทำการแก้ไขเรื่องเหล่านี้ใหม่ ซึ่งในหนังเขาใช้คำว่า Reload ตามชื่อภาคนี้เลย (The Matrix Reloaded)

🖥️ การเรียนรู้ของ Matrix - ตามที่บอกว่า Matrix ก็เป็นระบบ AI ซึ่งมันจะคอยปรับตัวในการหลอกมนุษย์ให้เก่งขึ้นไปเรื่อยๆอยู่ตลอด โดยการปรับตัวนั้นก็จะคอยเรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมา หรือที่เราคุ้นหูกันในวงการ AI ก็คือ Deep Leaning ที่เป็น subset ของ Machine Learning นั่นเอง

ให้เข้าใจง่ายก็คือ AI มันจะเรียนรู้จากข้อผิดพลาดไปเรื่อยๆ เช่น ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าจะต้องทำอะไรก็ลองทำไปมั่วๆ พอทำแล้วล้มเหลว ก็เรียนรู้ว่าไม่ควรทำแบบนั้นอีก ลองปรับตรงนี้ซิ อ่าวพังอีก งั้นลองปรับตรงนี้บ้างละ พังอีก มันก็จะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนสุดท้ายก็จะหาทางออกเจอว่าทำแบบไหนถึงจะไม่พัง

🤔 ยังหาคำตอบไม่ได้ - ถึงจุดนี้ทุกคนน่าจะเข้าใจแล้วว่า The One ก็เป็นโปรแกรมที่ถูกตั้งไว้ว่าให้กลับมาหา The Source เพื่ออัพเกรด Matrix เป็นเวอร์ชั่นถัดไป แต่ก็ยังไม่รู้คำตอบของด้านล่าง ใครรู้คอมเมนต์บอกที

  • ทำไมพวกสายลับถึงยังไล่จับ The One ในภาคแรก? หรือจะบอกว่า The One เป็นสิ่งที่แม้แต่ตัวระบบก็จะไม่รู้ว่าเป็นใคร (Anonymous)

  • ทำไมพวกสายลับต้องไล่ทำลายช่างทำกุญแจ? ในเมือช่างทำกุญแจเป็น Key สำคัญในการให้ The One มาอัพเกรด Matrix

สุดท้ายพ่อเฒ่าก็บอกว่าถ้า Neo ไม่ไปหา The Source มันจะทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์สูญพันธุ์ ซึ่งระบบก็มีแผนสำรองอยู่แล้ว แต่ไม่อยากเลือกทางนั้น แต่ว่า Neo ไม่เหมือน The One คนอื่นๆเพราะเขามีความรัก ซึ่ง Neo รัก Trinity หมดหัวใจและสามารถยอมแลกทุกอย่างเพื่อเธอได้ แม้มนุษย์จะสูญพันธุ์ก็ตาม (🤮 แหวะ) และในตอนนี้ Trinity กำลังจะถูกฆ่าตายตามความฝันที่ Neo เห็นในตอนต้นเรื่อง เลยทำให้ Neo ปฎิเสธที่จะไปหา The Source แล้วรีบบินไปหา Trinity นั่นเอง

แต่ไปถึงก็สายเสียแล้ว Trinity ถูกยิงและหมดลมหายใจไป ทำให้ Neo ต้องใช้หัตถ์อรหันต์ไป (จับหน้าอก 😱) นวดหัวใจเพื่อให้เธอฟื้นกลับมาอีกครั้ง

หลังจากนั้นทุกคนก็ออกจากโลก Matrix เพื่อมาคุยกันเรื่อง คำทำนาย ซึ่ง Morpheus งง ว่าทำไมสงครามยังไม่จบตามที่คำทำนายบอกไว้ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ Neo ได้บอกความจริงไปว่า The One ทุกคนที่ผ่านมาไม่มีใครคิดจะยุติสงคราม และมนุษย์ทั้งหมดถูกหลอกจากระบบเรื่องทำคำนาย ซึ่งเป็นการทำร้ายจิตใจของ Morpheus มาก และรวมถึงการที่เผ่าพันธุ์มนุษย์กำลังจะโดนล้างบางจากเหล่า Sentinels ในอีก 24 ชั่วโมง

🌎 The One ทุกคนที่ผ่านมาไม่มีใครคิดจะยุติสงคราม - เพราะ The One ทุกคนที่ผ่านมา พอได้รู้ความจริงจากผู้เฒ่าสถาปนิก ก็รู้ดีว่ามนุษย์ใน Zion ไม่สามารถต่อกรกับ Sentinels ได้เลย และทั้งหมดก็เป็นแผนที่ฝั่งเครื่องจักรวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์ไว้ ไม่ใช่การยุติสงครามที่ไม่มีทางชนะได้

Morpheus ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ สัญญาณเตือนภัยก็ดัง และ Neo ก็รีบให้ทุกคนหนีออกจากยาน เพราะรอบนี้พวกหุ่นยนต์เลือกที่จะโยนระเบิดพังยานทั้งจากระยะไกลเหมือนครั้งที่แล้ว และแล้วยานก็กลายเป็นโกโก้ครั้นช์~~~

หลังจากเสียยานไปแล้ว พวก Sentinels ก็ไล่ตามมาด้วยความเร็วที่มนุษย์ไม่สามารถหนีได้ ซึ่งอยู่ๆ Neo ก็รู้สึกถึงบางอย่าง แล้วเลือกที่จะไม่หนีอีกต่อไป หันไปใช้ (ฮาคิ 🤣) พลังบางอย่างทำลายเหล่า Sentinels ในโลกแห่งความจริง แต่หลังจากใช้พลังนั้นไป Neo ก็หมดสติลง และก็มียานกู้ชีพมารับพวก Neo ไป

🌎 Neo หยุดเหล่า Sentinels ในโลกจริงได้ยังไง - ในภาค 2 นี้มันยังไม่เฉลยตรงๆ แต่จะเฉลยในภาค 3 ดังนั้นขออุ๊บอิ๊บเอาไว้เฉลยในบทความถัดไปนะจ๊ะ 😘

ตัดกลับมา ฝั่ง Zion ได้มีการพูดถึงเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นกับยาน 5 ลำที่ส่งไปจัดการกับเหล่า Sentinels ว่ายานลำนึงอยู่ๆก็ยิงระเบิด EMP ออกมาทั้งๆที่ยังไม่ถึงจุดที่เหมาะสม ทำให้ยานทั้งหมดตก โดยลูกเรือทั้งหมดเหลือรอดแค่คนเดียวนั่นคือ Bane (คนที่สายลับ Smith ยึดร่างมาในตอนต้นเรื่อง) และตอนนี้ Bane ก็อยู่ในยานกู้ชีพ ซึ่งนอนเตียงติดๆกับ Neo แบบหัวชนกันเลย แล้วก็เป็นอันจบหนัง The Matrix ภาค 2 ไป

🌎 ยานที่ยิง EMP - แม้หนังจะไม่พูดตรงๆก็น่าจะพอเดาได้ว่า Bane ที่โดนควบคุมด้วย Smith เป็นคนยิงระเบิด EMP ออกไปเอง เพื่อที่จะทำลายโอกาสทั้งหมดของมนุษยชาตินั่นเอง

🌎 ระเบิด EMP คืออะไร - จริงๆมันถูกใช้ตั้งแต่ภาค 1 ละแต่ลืมอธิบาย ซึ่ง EMP หรือ Electromagnetic pulse มันคือการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกไป ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดเกิดความเสียหาย และพังลงในที่สุด ซึ่งเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดในการใช้ต่อต้านกับเครื่องจักรที่ใช้พลังงานไฟฟ้านั่นเอง ซึ่งมันก็เป็นดาบสองคม เพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ปล่อยออกไป มันไม่เลือกฝั่งที่จะทำลาย ของทุกอย่างที่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าของฝ่ายมนุษย์ก็จะใช้งานไม่ได้เช่นกัน ซึ่งเดี๋ยวเราจะเห็นอานุภาพของมันในภาค 3

💖 สรุปภาค 2

เนื้อเรื่องทั้งหมดต้องการจะสื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกวาดล้างมนุษย์ใน Zion หรือ การมีอยู่ของ Neo ก็ตามนั้นเป็นการวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นของพวกฝ่ายเครื่องจักรแล้ว ซึ่งมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตถึง 5 ครั้ง แต่ในครั้งนี้ Neo ไม่ได้เป็น The One ที่เหมือนๆ The One คนอื่นๆ เพราะเขาเลือกความรัก และยอมสละมนุษยชาติทั้งหมด อีกทั้งยังมี Smith ที่ผันตัวจากฝั่ง Matrix กลายมาเป็น Virus ที่จะมาทำลายทั้ง มนุษย์และ Matrix ด้วย เลยทำให้ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ภาค 2 นี้มีชื่อว่า The Matrix Reloaded เพราะตัว Matrix มันคิดว่า Neo จะเข้าไปหา The Source เพื่อ Reload ทุกอย่างเหมือนที่ The One คนอื่นๆทำยังงุยล่า

ก็น่าจะพอคลายความสงสัยทั้งหมดทิ้งไปได้พอสมควรแล้วนะ อย่างน้อยก็ผมก็ตายตาหลับละ งง มา 20 กว่าปี (หนังปี 1999 อ่ะ) เดี๋ยวก็จะเข็นสรุปภาค 3 ต่อ ดังนั้นถ้าไม่อยากพลาดก็ไปกดติดตามต่อได้ที่เพจ Facebook Mr.Saladpuk โลด เขียนเสร็จเมื่อไหร่จะเอามาลงให้อ่านทันทีเบย

คำเตือน (ทำไมมาเตือนตอนจบฟระ?) ทั้งหมดที่แมวน้ำสรุปมา เป็นสิ่งที่แมวน้ำวิเคราะห์เอาเองล้วนๆ (บางที่ก็แอบไปอ่านบอร์ดฝรั่งมา) ดังนั้นถ้าผิดพลาดหรืออยากเสริม อยากด่า อะไรก็เข้าไปเขียนคอมเมนต์เอา

คำเตือน เพจ Saladpuk เป็นเพจสอนเรื่องการพัฒนาซอฟต์แวร์ล้วนๆ ไม่ได้มาวิเคราะห์หนังอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นรบกวนอย่ากดติดตามเพื่อมาขอให้วิเคราะห์หนังเรื่องอื่นนะ (หนังญี่ปุ่นบางรหัสอาจจะพอวิเคราะห์ได้ 😁 )

Last updated