Saladpuk.com
🏆 เนื้อหาหลัก
🏆 เนื้อหาหลัก
  • 💖สลัดผัก
  • 📰มีอะไรใหม่บ้าง
    • 2020
      • 2020-11
      • 2020-10
      • 2020-09
      • 2020-08
      • 2020-03
      • 2020-02
      • 2020-01
    • 2019
      • 2019-12
      • 2019-11
      • 2019-10
      • 2019-09
      • 2019-08
  • 🤔อ่านเรื่องไรดี ?
  • มือใหม่หัดเขียนโค้ด
    • 👶เขียนโค้ดด้วยภาษา C#
      • เกิดมาไม่เคยเขียนโค้ดมาก่อนเบย
      • 👶พื้นฐาน
        • 1.โปรแกรมที่ต้องลง
        • 2.โครงสร้างของโค้ด
        • 3.ชนิดของข้อมูล
        • 4.การสร้างตัวแปร
        • 5.คำสั่งพื้นฐาน
        • 6.การแปลงข้อมูล
        • 7.การเปรียบเทียบค่า
        • 8.การตัดสินใจด้วย IF statements
        • 9.การตัดสินใจด้วย Switch statements
        • 10.การทำงานซ้ำๆด้วย While
        • 11.การทำงานซ้ำๆด้วย Do While
        • 12.การทำงานซ้ำๆด้วย For
        • 13.การแก้โจทย์จากรูป
        • 14.มารู้จักกับ Array กัน
      • 🧑ระดับกลาง
        • 15.Value type vs Reference type
        • 16.ลดงานซ้ำๆด้วย Method
        • 17.มารู้จักกับ Class & Field กัน
        • 18.มารู้จักกับ Constructor กันบ้าง
        • 19.มาเขียน Method ใน Class กัน
        • 20.มารู้จักกับ Property กัน
        • 21.ลองใช้คลาสแบบจริงจังบ้าง
        • 22.การสืบทอด Inheritance
        • 23.Polymorphism
        • 24.Abstract Class
        • 25.Interface
        • 26.Namespace
        • 27.Enum
        • 28.Exception handler
        • 29.ลงลึกกับ string
        • 30.StringBuilder เพื่อนคู่ string
      • 👨⏳ระดับสูง
        • Generic
        • Delegates
        • Action & Func
        • Lambda expression
        • LINQ
        • พระคัมภีร์การใช้คำสั่ง LINQ
      • 💡Tips
        • 💡C# version 8.0
        • 💡Boxing & Unboxing
    • 👶Algorithm
      • 👾Algorithm Big-O
      • 👽Algorithm P & NP
    • 👦OOP
      • 💖Abstraction
      • 💖Encapsulation
      • 🏆Abstraction & Encapsulation
      • 💖Inheritance
      • 💖Polymorphism
      • 🏆Inheritance & Polymorphism
      • 📝ลองเขียน OOP ดูดิ๊
      • 👑OOP + Power of Design
      • 🥰เทคนิคในการออกแบบ
    • 👶บทสรุปฐานข้อมูล
      • เก็บรูปในฐานข้อมูล
      • Database indexing
      • การลบข้อมูล
    • 👦Communication Patterns
    • 👦Design Patterns
      • 🤰Creational Patterns
        • 🏭Factory Method
        • 🏭Abstract Factory
        • ☝️ Singleton Pattern
        • 🏗️ Builder Pattern
        • 🎎Prototype Pattern
      • 🧱Structural Patterns
        • 🔌Adapter Pattern
        • 📪Proxy Pattern
  • Puzzle
    • 🧠Challenges
      • 🐴Google ม้า 25 ตัว
      • 🌉Amazon เสา 2 ต้น
      • 🥇ทองเก๊
      • 💊ยาต้านโควิด
      • 🎩CP หมวก 5 ใบ
      • 🧓Einstein's Riddle 01
  • พื้นฐานที่ควรต้องรู้
    • 🐳Docker
      • 📦Docker Containers
      • 🃏Docker Exercise 01
      • 🛠️ Docker Tools
      • 🗃️ Docker Registry
      • 🖼️ Container Image
      • 📢Docker Push
      • 🔄WSL
    • 👶Clean Code
      • 🧓Uncle Bob - Clean Code
      • 🧓Uncle Bob - Comments
      • 🧓Uncle Bob - Naming
      • 🧓Uncle Bob - Mindset
      • 🧓Uncle Bob - TDD
    • 👶Code Smells
    • 👶สิ่งที่คนเขียนโค้ดมักเข้าใจผิด
    • 👶AI พื้นฐาน
    • 👶Git พื้นฐาน
      • Git branching strategy
    • 👶Cloud พื้นฐาน
    • 👶UML พื้นฐาน
      • Activity Diagram
      • Class Diagram
      • Sequence Diagram
      • Use case Diagram
      • บทสรุปการใช้ UML
    • 👶Data Scientist
      • การเลือก Algorithms ให้ AI (1/5)
      • การเตรียมข้อมูลให้ AI (2/5)
      • หลักการตั้งคำถามให้ AI (3/5)
      • แฉความลับของ AI Model (4/5)
      • หัดเขียน AI จาก AI ของคนอื่น (5/5)
    • 👶DevOps พื้นฐาน
    • 👶Docker ขั้นพื้นฐาน
      • Image and Container
      • แชร์ Docker Image ที่สร้างไว้
    • 👶Microservices พื้นฐาน
      • Microservices ที่ดีมีลักษณะยังไง
      • Microservices Tips
      • จาก Monolith สู่ Microservices
    • 👶ความรู้พื้นฐานในการทำเว็บ
    • 👦Bottlenecks of Software
      • หัวใจที่สำคัญที่สุดของฐานข้อมูล
    • 👦Agile Methodology
      • Agile in a Nutshell
      • Software Development Life Cycle
      • Code Review
    • 👦Security พื้นฐาน
      • การเก็บรหัสผ่านที่ถูกต้อง
      • Security in actions
        • Hash function
      • Security Principles
      • 😎The Matrix 1
      • 😎The Matrix 2
      • HTTPS in a nutshell
    • 👦SOLID Design Principles
      • มารู้จักกับ SOLID กันดีกว่า
      • Single-Responsibility Principle
      • Open/Closed Principle
      • Liskov Substitution Principle
      • Interface Segregation Principle
      • Dependency-Inversion Principle
  • Cloud Computing
    • 👶Microsoft Azure 101
      • สมัคร Microsoft Azure
      • รู้จักกับ Resource Groups
      • สร้างเว็บตัวแรกกัน
      • สร้าง Virtual Machine กัน
      • ประเภทของคลาว์เซอร์วิส
      • มาสร้าง Logic App กัน
      • มาสร้าง Function App กัน
      • คลาว์คิดเงินยังไง ?
      • Cloud Native
      • Guideline for Cloud scaling
      • Auto Scaling
    • 👶Azure App Services
    • 👶App Service Plan
    • 👶Azure Storage
      • Blob storage
        • ลองสร้างที่เก็บไฟล์กันเลย
        • เข้าใจ Blob storage ให้มากขึ้น
        • ลองเขียนโค้ดอัพโหลดไฟล์กันบ้าง
        • สร้างเว็บจากที่ฝากไฟล์บนคลาว์
    • 👶Azure Bot Service
      • Bot เข้าใจเราได้ยังไงกันนะ
    • 👶Azure Cognitive Services
      • การสร้าง Cognitive Services
      • การ Login ด้วยใบหน้า
      • อ่านลายมือจากรูปเป็นตัวอักษร (OCR)
      • เขียน AI แยกของต่างๆทำยังไง?
      • เขียนแอพ ทายอายุ บอกเพศ ง่ายจิ๊ดเดียว
      • เขียนแอพให้ AI อธิบายรูปเป็นภาษาคน
    • 👶Machine Learning Studio
      • มาสร้าง AI ของแท้ตัวแรกของเรากัน
      • สร้าง AI ตัดสินใจอนุมัติบัตรเครดิต 💳
      • ลองเรียกใช้ AI ของเรากัน
    • 👶Azure Service Fabric
      • สร้าง Service Fabric กัน
    • 👶Blockchain
      • Blockchain ทำงานยังไง ?
      • Consensus Algorithm คืออะไร ?
      • สร้าง Blockchain ใช้เองกัน !
      • หัดเขียน Smart Contract กัน
    • 👶Power BI
    • 👶Azure Web App
      • เซิฟเวอร์บนคลาว์ ราคา? ต่าง?
    • 👶Azure DevOps
      • เล่น Azure DevOps กัน
      • เล่นกับ Repository
      • ลองทำ Continuous Integration (CI)
      • ลองทำ Continuous Delivery (CD)
      • เล่น Kanban Board
    • 🤠Cloud Playground
      • การป้องกันความลับหลุดตอนที่ 1
      • การป้องกันความลับหลุดตอนที่ 2
      • การป้องกันความลับหลุดตอนที่ 3
      • การป้องกันความลับหลุดตอนจบ
  • Software Testing
    • 👦Test-First Design
    • 👦Test-Driven Development
      • 1.มารู้จักกับ TDD กันดีกว่า
      • 2.Test cases เขาเขียนกันยังไงนะ
      • 3.เครื่องมือในการทดสอบ
      • 4.การใช้ Theory และ InlineData
      • 5.โค้ดที่ทดสอบได้
      • 6.Mantra of TDD
      • 7.Functional & None-Functional testing
      • 8.Manual vs Automation testing
      • 9.Automation Frameworks in .NET
      • 10.Mock Framework
      • 11.มาเรียนการใช้ Moq กันเถอะ
      • 12.สรุป
  • Web
    • 👦Web API
      • 1.Web API คืออะไร
      • 2.ติดตั้ง .NET Core SDK
      • 3.สร้าง Web API ตัวแรกกัน
      • 4.Verbs
      • 5.Swagger เพื่อคู่ API
      • 6.การใช้ Model
      • 7.เรียก Web API ผ่าน Postman
      • 8.มาจัดกลุ่ม API กัน (1/2)
      • 9.มาจัดกลุ่ม API กัน (2/2)
  • Software Design
    • 🤴Design Patterns
      • 🦈Creational patterns
        • Abstract Factory
        • Builder
        • Factory Method
        • Prototype
        • Singleton
      • 🦈Structural patterns
        • Adapter
        • Bridge
        • Decorator
        • Facade
        • Proxy
      • 🦈Behavioral patterns
        • Chain of Responsibility
        • Command
        • Iterator
        • Mediator
        • Memento
        • Observer
        • State
        • Strategy
        • Template Method
        • Visitor
Powered by GitBook
On this page
  • 😢 ปัญหา
  • 😄 วิธีแก้ปัญหา
  • 👑 ทำความเข้าใจกันก่อน
  • 🤔 Agile คืออะไร ?
  • 🤔 Agile Manifesto มีไรบ้าง ?
  • 🤢 Agile คือบ้าไรเนี่ย?
  • 🤔 ทำ Agile แล้วได้อะไร ?
  • 🤔 อะไรบ้างที่ใช้ Agile?
  • 🤔 หลักปฏิบัติ 12 ข้อมีไรบ้าง?
  • 🧭 เนื้อหาของคอร์สทั้งหมด
  • 🎯 บทสรุป

Was this helpful?

Export as PDF
  1. พื้นฐานที่ควรต้องรู้

Agile Methodology

🤔 คนเก่งๆเขาการจัดการโปรเจคยังไงให้มีประสิทธิภาพกันนะ ?

Previousหัวใจที่สำคัญที่สุดของฐานข้อมูลNextAgile in a Nutshell

Last updated 5 years ago

Was this helpful?

😢 ปัญหา

เบื่อไหมในการทำโปรเจคแต่ละรอบเราก็จะเจอแต่ปัญหาเดิมๆ ส่งงานไม่ทัน ทำงานไม่ตรงที่ลูกค้าอยากได้ ทำงานได้ช้ากว่าที่รับปากลูกค้าไว้ และอีกสารพัดปัญหาที่คอยตามหลอกหลอนในการทำโปรเจค แล้วเราจะแก้ปัญหาพวกนี้ยังไงกันดีนะ?

😄 วิธีแก้ปัญหา

ปัญหาที่ว่ามานั้นเกิดจาก "กระบวนการจัดการโปรเจค" ยังไงล่ะ ถ้าเราวางแผนจัดการมันได้ดีพอ ปัญหาที่ว่ามาก็จะลดน้อยลงมากเลยนะ และทีมที่ทำงานก็ไม่เครียดด้วย โดยในปัจจุบันกระบวนการบริหารจัดการโปรเจคที่เรานิยมใช้กันอยู่นั้น คือเจ้าสิ่งที่เรียกว่า Agile นั่นเอง (อะจาล เอจาล อะไจล์ เอไจล์ แล้วแต่จะออกเสียงเลยเอาที่สบายใจ)

หลุมพรางของ Agile หลักในการปฏิบัติของ agile นั้นอ่านแล้วดูเหมือนง่าย แต่ถ้าคนไม่เคยทำไปหัดลองทำส่วนใหญ่ 99% จะทำผิดหมดเลย และยิ่งถ้าไม่ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน หรือที่เขาเรียกว่าทำจนเข้าเส้น ผมรับประกันเลยว่า สิ่งที่คุณทำอยู่มันไม่ใช่ agile

จากที่ร่ายยาวมาทั้งหมดผมอยากให้เพื่อนๆลองทำความเข้าใจในคอร์ส Agile ทั้งหมดนี่จริงๆจังเสียก่อนว่ามันคืออะไร แล้วย้อนกลับมาดูว่าที่กำลังทำอยู่มันใช่ agile หรือเปล่า? และ จริงๆแล้วเราควรจะใช้มันดีไหม? เพราะไม่อย่างนั้น เราก็จะบอกว่า Agile ห่วย ทั้งๆที่เราใช้มันอย่างไม่ถูกวิธีนั่นเอง (เหมือนกับเอาค้อนไปเลื่อยไม้ แล้วบ่นว่าค้อนมันกากไงงี้เลย)

👑 ทำความเข้าใจกันก่อน

บทความนี้เป็นคอร์สหลักเรื่อง Agile Methodology ดังนั้นเราจะแค่เกริ่นก่อนว่าความเป็นมาของ agile เป็นยังไง และจะค่อยลงลึกเรื่อยๆในแต่ละเรื่องว่า เราได้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง และ ทีมควรปรับเอาเรื่องอะไรไปใช้บ้าง โดยจะใช้ Scrum เป็นตัวอย่างในการอธิบาย

ซึ่งผมขอเคลียก่อนว่าผมไม่ได้มาเพื่อที่จะบอกว่าตัวไหนดีกว่าตัวไหน แต่ผมต้องการจะให้เห็นภาพใหญ่ว่า ตัวเลือกในการบริหารจัดการนั้นมันมีอะไรบ้าง ซึ่งสุดท้ายแล้วเราก็อาจจะไปสร้างวิธีการจัดการของตัวเองออกมาก็ได้ เพราะบริษัทแต่ละที่ก็จะมีวัฒนธรรม ความชอบที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง (ซึ่งในมุมมองผม ไม่ว่าจะเลือกวิธีจัดการแบบไหน agile ก็สามารถเข้าได้กับการทำงานทุกรูปแบบอยู่ดี)

🤔 Agile คืออะไร ?

เอาแบบเร็วๆเลยนะ ราวๆปี 2001 วงการ Software ได้มาถึงจุดที่น่าเป็นห่วง เพราะโปรเจคส่วนใหญ่จะพังลงเมื่อทำไปถึงจุดนึง ดังนั้นเหล่ามหาเทพระดับโลกที่คร่ำหวอดในวงการนี้ เลยนัดรวมตัวกัน มาเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อหาทางออกให้กับปัญหาโลกแตกนี้อยู่หลายวัน (เทพแต่ละองค์โคตรหัวดื้อเลยจะบอกให้) จนสุดท้ายเหล่าทวยเทพก็ได้ข้อสรุปที่เห็นพ้องต้องกันว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไงดี โดยได้ข้อสรุปที่เป็นหัวใจ 4 ข้อออกมาเรียกว่า Agile manifesto และ หลักในการปฏิบัติ 12 ข้อ หรือที่เราเรียกว่า 12 Principles of Agile Software จากที่ว่ามาเหมือนทุกอย่างจะจบลงได้ด้วยดี ... ซะเมื่อไหร่!! เพราะทั้งหมดที่ว่ามามันเป็นแค่หลักคิดแบบกลางๆเท่านั้น มันไม่ได้บอกเลยว่าต้องทำยังไง! ดังนั้นเทพแต่ละองค์ก็เอาหลักคิดนี้ไปสร้างเป็นการบริหารจัดการซอฟต์แวร์ของตัวเองต่อนั่นเอง!!

จากที่ร่ายยาวมา เราลองไปดูก่อนว่าข้อสรุปของเหล่าองค์เทพได้ทิ้งอะไรไว้ให้เรากันบ้าง

🤔 Agile Manifesto มีไรบ้าง ?

  1. คนและการมีปฏิสัมพันธ์กัน มากกว่าการทำตามขั้นตอนและเครื่องมือ

  2. ซอฟต์แวร์ที่นำไปใช้งานได้จริง มากกว่าเอกสารที่ครบถ้วนสมบูรณ์

  3. ร่วมมือทำงานกับลูกค้า มากกว่าการต่อรองให้เป็นไปตามสัญญา

  4. การตอบรับกับการเปลี่ยนแปลง มากกว่าการทำตามแผนที่วางไว้

เป็นยังไงบ้างซาบซึ้งในรสพระธรรมเลยใช่ไหม ... ก็อย่างที่บอกว่า มันเป็นแนวคิดอย่างเดียวเลย ไม่ได้บอกว่าต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งคือหัวใจหลักของมันมีแค่นี้จริงๆนะ ดังนั้นผมจะแปลให้ฟังใหม่ว่า

การทำ software มันต้องร่วมมือกันทำมันถึงจะสำเร็จ โดยให้เราเน้นไปที่เรื่อง

  1. เน้นให้คนแต่ละคนได้พูดคุยทำความเข้าใจกันในทุกๆเรื่องๆ ดีกว่าให้แต่ละฝ่ายคอยทำตามขั้นตอนที่วางไว้ 1234 ถ้าใครทำไม่ถูกโดนตัดหัว และอย่าไปสนใจเครื่องมือมากนัก (สังเกตได้จากงานราชกาลประเทศไรไม่รู้ ต้องทำตามขั้นตอนอืดอาดวุ่นวาย เพื่อที่ได้ดำเนินการกัน ทั้งๆที่เอ็งนั่งข้างๆกัน กินข้าวเที่ยงด้วยกันเนี่ยนนะ)

  2. เน้นให้เราทำซอฟต์แวร์ที่มันเอาไปใช้งานได้จริง มันแก้ปัญหาลูกค้าได้จริงๆ ดีกว่าไปไล่ทำตามเอกสารที่ลูกค้าเขียนไว้ 2,048 ข้อ (เหมือน TOR ของประเทศไรก็ไม่รู้ พูดแล้วมีโมโห พอทำเสร็จก็ส่งงานได้อยู่หรอก แต่ขนาดคนเขียนเองยังรู้เลยว่ามันไม่ได้แก้ปัญหาของเอ็งหรอกคุณลูกค้าที่เคารพ)

  3. เน้นให้เรากับลูกค้าได้พูดคุยร่วมกันแก้ปัญหา เพื่อหาผลลัพท์ที่ดีที่สุดกับสถานะการณ์จริงของลูกค้า ดีกว่าไปต่อรองว่า อ้าวก็ลูกค้าบอกว่าอยากได้ไอ้นี่ ผมก็ทำไอ้นี่ตามสัญญาที่ว่าไว้แล้วนิ! ตามในหนังสือสัญญาเลยนะ ไม่เชื่อดูดิ!

  4. เน้นให้ทีมยอมรับในความเป็นจริง ว่าในวงการนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และทีมพร้อมที่จะเปลี่ยนเพื่อของที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากกว่า ดีกว่าไปยึดติดกับแผนที่วางไว้แล้ว ซึ่งมันอาจจะไม่ตอบโจทย์ลุกค้าแล้วก็ได้ (พูดให้เห็นภาพคือ มันถึงเวลานอนแล้ว แต่บ้านดันไฟไหม้ขึ้นมา คุณยังจะยึดแผนเดิมคือเข้านอนเหรอ?)

หัวใจหลักของ Agile จากที่เราเห็นเราก็จะค้นพบว่า หัวใจหลักในการแก้ปัญหาของ Agile คือการใช้เหตุผลและข้อเท็จจริงคุยกัน เพื่อช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุดของเราและลูกค้านั่นเอง

🤢 Agile คือบ้าไรเนี่ย?

ก่อนที่จะไปต่อผมอยากให้เข้าใจก่อนว่า Agile มันมีแต่แนวคิด ไม่ได้บอกว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ดังนั้นผมจะยังไม่พูดถึงหลักปฏิบัติ 12 ข้อว่ามีอะไรบ้าง เพราะไม่งั้นคนที่จะเหลือรอดอ่านบทความผมต่อคงจะเข้าใกล้ 0 เข้าไปเรื่อยๆ ดังนั้นเราไปดูกันก่อนว่า ถ้าเราใช้ Agile แบบถูกวิธีจริงๆเราจะได้อะไรบ้าง

🤔 ทำ Agile แล้วได้อะไร ?

ขอเขียนแบบรวมๆไม่ได้ไล่ความสำคัญแบบคร่าวๆละกันว่า

  • ทีมและลูกค้าไม่เครียด และ ต่างฝ่ายต่างเชื่อใจกันมากขึ้น

  • ทีมสามารถส่งงานได้ตามกำหนด และปรับแก้แผนงานได้

  • ทุกคนคุยกันช่วยกันทำงาน ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่เอาแต่รอรับคำสั่งรายวัน

  • งานที่เราส่งให้ลูกค้า เป็นของที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่แท้จริง

  • ทีมและลูกค้าสามารถวางแผนงานและค่าใช้จ่ายได้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้น

  • งานที่ทีมทำจะมีคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิม

  • ค่าใช้จ่ายลดลง ทั้งทีมและลูกค้าเลย

มันไม่ได้มีดีแค่นี้หรอก แต่ผมเชื่อว่าเพียงแค่นี้ก็สามารถแก้ปัญหาส่วนใหญ่ที่เราเจอกันอยู่ทุกวันอยู่แล้ว

🤔 อะไรบ้างที่ใช้ Agile?

อย่างที่บอกว่า Agile เป็นแค่หลักในการคิดเท่านั้น ดังนั้นมันเลยมีรูปแบบในการบริหารจัดการหลายตัวเลยที่เอาหลักการนี้ไปใช้ เช่น Scrum, Extreme Programming (XP), Lean & Kanban บลาๆ ซึ่งแต่ละตัวเป็นยังไงบ้างเดี๋ยวเราค่อยไปลงรายละเอียดกันอีกที

🤔 หลักปฏิบัติ 12 ข้อมีไรบ้าง?

🧭 เนื้อหาของคอร์สทั้งหมด

สิ่งที่จะได้จากคอร์สนี้คือ เข้าใจว่า Agile คืออะไร ส่วนหลักในการทำ agile นั้นส่วนใหญ่ในไทยเราจะดังในเรื่องของ Scrum (สกรัม: สะ-กรัม อย่ามาอ่านว่า สก-รัม ให้ผมได้ยินนะผมจะกลั้นหัวเรอะไว้ไม่อยู่) ดังนั้นเดี๋ยวเราจะมาลองดูกันว่าแต่ละพิธีกรรมของเขามีอะไรบ้าง และหัวใจหลักจริงๆในแต่ละพิธีกรรมมันมีอะไรบ้าง

ลำดับเรื่องที่จะเล่าแบบคร่าวๆ

  • Scrum คืออะไร? และมันจะช่วยเราได้ยังไงในภาพรวม

  • แต่ละ Sprint เขาทำอะไรบ้าง

  • หน้าที่และบทบาทของ Scrum มีอะไร? และต้องทำไรบ้าง?

  • มันเยอะมากเดี๋ยวค่อยว่ากันคิดอะไรออกเดี๋ยวเอามาเขียนไว้ตรงนี้ละกัน

🎯 บทสรุป

Agile คือหลักในการบริหารจัดการ ที่สามารถเอาไปใช้กับอะไรก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นซอฟต์แวร์อย่างเดียวเท่านั้น โดยมันมีหัวใจหลักคืออการทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยตั้งอยู่บทเหตุและผลที่เป็นข้อเท็จจริง เพื่อให้แต่ละฝ่ายช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุดให้กันและกัน ซึ่งในวงการซอฟต์แวร์นั้นมีการนำหลักนี้ไปปรับใช้เป็นวิธีการของตัวเองอยู่หลายตัว และของที่ได้จากการทำ agile โดยรวมแล้วมีผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะทีมจะไม่ติดหนี้ในหลายๆเรื่อง และสร้างความเชื่อใจให้กับทุกฝ่ายนั่นเอง

บทความนี้ศักสิทธิ์มากเลยอยากให้เพื่อนๆได้ลองไปอ่านของจริงดูจากลิงค์นี้ ซึ่งแปลออกมาก็ราวๆนี้

ตอนแรกว่าจะไม่เอามาลงละ เพราะไม่งั้นบทความนี้จะออกมาเป็หนังสือวิชาการเลยซึ่งน่าเบื่อมาก ดังนั้นผมเลยขอให้ไปอ่านเองจากลิงค์นี้ละกัน กับ เลือกอ่านเอาเองละกัน

คอร์สนี้กำลังค่อยๆเขียนอยู่ ซึ่งถ้าเขียนเสร็จก็จะเอามาลงไว้ในหน้านี้แหละ ถ้าไม่อยากพลาดอัพเดท ก็ไปกดติดตามได้จากลิงค์นี้เบย

👦
Agile Manifesto
ภาษาอังกฤษ
ภาษาไทย
Saladpuk Facebook
Agile in a Nutshell
Software Development Life Cycle
Code Review
http://agilemanifesto.org