6.การใช้ Model
💬 ถ้าเราเริ่มเขียน API ไปได้ซักพักเราจะเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับ parameters ที่ใช้รับส่งกันของ API (หรือผมเป็นอยู่คนเดียวหว่า) เช่น ถ้าผมต้องการรับข้อมูลนักเรียน ผมก็ต้องเขียน parameter ให้เป็นตามโค้ดด้านล่าง ซึ่งมันไม่สนุกเลยถ้าข้อมูลนักเรียนมีเยอะมากจริงๆ ดังนั้นในรอบนี้เราจะลองใช้ model มาช่วยในการทำงานที่ตรงกับ programming ยุคนี้กัน
[HttpPost("{id}/{name}/{age}")]
public void CreateNewStudent(string id, string name, int age)
{
// Do something
}
🎯 สรุปสั้นๆ
👨🚀 ข้อดีในการนำ model มาช่วย
ลดความวุ่นวายของโค้ดลง
จัดการโค้ดได้เป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น
เวลาแก้ไข แก้แค่ที่เดียว แล้วทุดจุดที่ใช้ model นั้นๆก็จะถูกแก้ไปด้วย
ข้อมูลที่ส่งผ่าน Web API ไม่จำเป็นต้องเป็น JSON เสมอไปนะครับ ขึ้นอยู่กับ protocol ที่กำหนดไว้ครับ
👨🚀 ตัวอย่างข้อมูลในรูปของ object และ JSON
สมมุติว่าเรามีข้อมูลในรูปของ object เป็นภาพนี้
Student s1 = new Student
{
Id = "S01",
Name = "Sakul",
Age = 18
};
พอเราส่งข้อมูล object นั้นออกมาสู่โลกของ Web API ซึ่งอยู่ในรูปแบบของ JSON เราจะได้มันออกมาเป็นตามด้านล่างครับ
{
"id": "S01",
"Name": "Sakul",
"Age": 18
}
Last updated
Was this helpful?