Saladpuk.com
🏆 เนื้อหาหลัก
🏆 เนื้อหาหลัก
  • 💖สลัดผัก
  • 📰มีอะไรใหม่บ้าง
    • 2020
      • 2020-11
      • 2020-10
      • 2020-09
      • 2020-08
      • 2020-03
      • 2020-02
      • 2020-01
    • 2019
      • 2019-12
      • 2019-11
      • 2019-10
      • 2019-09
      • 2019-08
  • 🤔อ่านเรื่องไรดี ?
  • มือใหม่หัดเขียนโค้ด
    • 👶เขียนโค้ดด้วยภาษา C#
      • เกิดมาไม่เคยเขียนโค้ดมาก่อนเบย
      • 👶พื้นฐาน
        • 1.โปรแกรมที่ต้องลง
        • 2.โครงสร้างของโค้ด
        • 3.ชนิดของข้อมูล
        • 4.การสร้างตัวแปร
        • 5.คำสั่งพื้นฐาน
        • 6.การแปลงข้อมูล
        • 7.การเปรียบเทียบค่า
        • 8.การตัดสินใจด้วย IF statements
        • 9.การตัดสินใจด้วย Switch statements
        • 10.การทำงานซ้ำๆด้วย While
        • 11.การทำงานซ้ำๆด้วย Do While
        • 12.การทำงานซ้ำๆด้วย For
        • 13.การแก้โจทย์จากรูป
        • 14.มารู้จักกับ Array กัน
      • 🧑ระดับกลาง
        • 15.Value type vs Reference type
        • 16.ลดงานซ้ำๆด้วย Method
        • 17.มารู้จักกับ Class & Field กัน
        • 18.มารู้จักกับ Constructor กันบ้าง
        • 19.มาเขียน Method ใน Class กัน
        • 20.มารู้จักกับ Property กัน
        • 21.ลองใช้คลาสแบบจริงจังบ้าง
        • 22.การสืบทอด Inheritance
        • 23.Polymorphism
        • 24.Abstract Class
        • 25.Interface
        • 26.Namespace
        • 27.Enum
        • 28.Exception handler
        • 29.ลงลึกกับ string
        • 30.StringBuilder เพื่อนคู่ string
      • 👨⏳ระดับสูง
        • Generic
        • Delegates
        • Action & Func
        • Lambda expression
        • LINQ
        • พระคัมภีร์การใช้คำสั่ง LINQ
      • 💡Tips
        • 💡C# version 8.0
        • 💡Boxing & Unboxing
    • 👶Algorithm
      • 👾Algorithm Big-O
      • 👽Algorithm P & NP
    • 👦OOP
      • 💖Abstraction
      • 💖Encapsulation
      • 🏆Abstraction & Encapsulation
      • 💖Inheritance
      • 💖Polymorphism
      • 🏆Inheritance & Polymorphism
      • 📝ลองเขียน OOP ดูดิ๊
      • 👑OOP + Power of Design
      • 🥰เทคนิคในการออกแบบ
    • 👶บทสรุปฐานข้อมูล
      • เก็บรูปในฐานข้อมูล
      • Database indexing
      • การลบข้อมูล
    • 👦Communication Patterns
    • 👦Design Patterns
      • 🤰Creational Patterns
        • 🏭Factory Method
        • 🏭Abstract Factory
        • ☝️ Singleton Pattern
        • 🏗️ Builder Pattern
        • 🎎Prototype Pattern
      • 🧱Structural Patterns
        • 🔌Adapter Pattern
        • 📪Proxy Pattern
  • Puzzle
    • 🧠Challenges
      • 🐴Google ม้า 25 ตัว
      • 🌉Amazon เสา 2 ต้น
      • 🥇ทองเก๊
      • 💊ยาต้านโควิด
      • 🎩CP หมวก 5 ใบ
      • 🧓Einstein's Riddle 01
  • พื้นฐานที่ควรต้องรู้
    • 🐳Docker
      • 📦Docker Containers
      • 🃏Docker Exercise 01
      • 🛠️ Docker Tools
      • 🗃️ Docker Registry
      • 🖼️ Container Image
      • 📢Docker Push
      • 🔄WSL
    • 👶Clean Code
      • 🧓Uncle Bob - Clean Code
      • 🧓Uncle Bob - Comments
      • 🧓Uncle Bob - Naming
      • 🧓Uncle Bob - Mindset
      • 🧓Uncle Bob - TDD
    • 👶Code Smells
    • 👶สิ่งที่คนเขียนโค้ดมักเข้าใจผิด
    • 👶AI พื้นฐาน
    • 👶Git พื้นฐาน
      • Git branching strategy
    • 👶Cloud พื้นฐาน
    • 👶UML พื้นฐาน
      • Activity Diagram
      • Class Diagram
      • Sequence Diagram
      • Use case Diagram
      • บทสรุปการใช้ UML
    • 👶Data Scientist
      • การเลือก Algorithms ให้ AI (1/5)
      • การเตรียมข้อมูลให้ AI (2/5)
      • หลักการตั้งคำถามให้ AI (3/5)
      • แฉความลับของ AI Model (4/5)
      • หัดเขียน AI จาก AI ของคนอื่น (5/5)
    • 👶DevOps พื้นฐาน
    • 👶Docker ขั้นพื้นฐาน
      • Image and Container
      • แชร์ Docker Image ที่สร้างไว้
    • 👶Microservices พื้นฐาน
      • Microservices ที่ดีมีลักษณะยังไง
      • Microservices Tips
      • จาก Monolith สู่ Microservices
    • 👶ความรู้พื้นฐานในการทำเว็บ
    • 👦Bottlenecks of Software
      • หัวใจที่สำคัญที่สุดของฐานข้อมูล
    • 👦Agile Methodology
      • Agile in a Nutshell
      • Software Development Life Cycle
      • Code Review
    • 👦Security พื้นฐาน
      • การเก็บรหัสผ่านที่ถูกต้อง
      • Security in actions
        • Hash function
      • Security Principles
      • 😎The Matrix 1
      • 😎The Matrix 2
      • HTTPS in a nutshell
    • 👦SOLID Design Principles
      • มารู้จักกับ SOLID กันดีกว่า
      • Single-Responsibility Principle
      • Open/Closed Principle
      • Liskov Substitution Principle
      • Interface Segregation Principle
      • Dependency-Inversion Principle
  • Cloud Computing
    • 👶Microsoft Azure 101
      • สมัคร Microsoft Azure
      • รู้จักกับ Resource Groups
      • สร้างเว็บตัวแรกกัน
      • สร้าง Virtual Machine กัน
      • ประเภทของคลาว์เซอร์วิส
      • มาสร้าง Logic App กัน
      • มาสร้าง Function App กัน
      • คลาว์คิดเงินยังไง ?
      • Cloud Native
      • Guideline for Cloud scaling
      • Auto Scaling
    • 👶Azure App Services
    • 👶App Service Plan
    • 👶Azure Storage
      • Blob storage
        • ลองสร้างที่เก็บไฟล์กันเลย
        • เข้าใจ Blob storage ให้มากขึ้น
        • ลองเขียนโค้ดอัพโหลดไฟล์กันบ้าง
        • สร้างเว็บจากที่ฝากไฟล์บนคลาว์
    • 👶Azure Bot Service
      • Bot เข้าใจเราได้ยังไงกันนะ
    • 👶Azure Cognitive Services
      • การสร้าง Cognitive Services
      • การ Login ด้วยใบหน้า
      • อ่านลายมือจากรูปเป็นตัวอักษร (OCR)
      • เขียน AI แยกของต่างๆทำยังไง?
      • เขียนแอพ ทายอายุ บอกเพศ ง่ายจิ๊ดเดียว
      • เขียนแอพให้ AI อธิบายรูปเป็นภาษาคน
    • 👶Machine Learning Studio
      • มาสร้าง AI ของแท้ตัวแรกของเรากัน
      • สร้าง AI ตัดสินใจอนุมัติบัตรเครดิต 💳
      • ลองเรียกใช้ AI ของเรากัน
    • 👶Azure Service Fabric
      • สร้าง Service Fabric กัน
    • 👶Blockchain
      • Blockchain ทำงานยังไง ?
      • Consensus Algorithm คืออะไร ?
      • สร้าง Blockchain ใช้เองกัน !
      • หัดเขียน Smart Contract กัน
    • 👶Power BI
    • 👶Azure Web App
      • เซิฟเวอร์บนคลาว์ ราคา? ต่าง?
    • 👶Azure DevOps
      • เล่น Azure DevOps กัน
      • เล่นกับ Repository
      • ลองทำ Continuous Integration (CI)
      • ลองทำ Continuous Delivery (CD)
      • เล่น Kanban Board
    • 🤠Cloud Playground
      • การป้องกันความลับหลุดตอนที่ 1
      • การป้องกันความลับหลุดตอนที่ 2
      • การป้องกันความลับหลุดตอนที่ 3
      • การป้องกันความลับหลุดตอนจบ
  • Software Testing
    • 👦Test-First Design
    • 👦Test-Driven Development
      • 1.มารู้จักกับ TDD กันดีกว่า
      • 2.Test cases เขาเขียนกันยังไงนะ
      • 3.เครื่องมือในการทดสอบ
      • 4.การใช้ Theory และ InlineData
      • 5.โค้ดที่ทดสอบได้
      • 6.Mantra of TDD
      • 7.Functional & None-Functional testing
      • 8.Manual vs Automation testing
      • 9.Automation Frameworks in .NET
      • 10.Mock Framework
      • 11.มาเรียนการใช้ Moq กันเถอะ
      • 12.สรุป
  • Web
    • 👦Web API
      • 1.Web API คืออะไร
      • 2.ติดตั้ง .NET Core SDK
      • 3.สร้าง Web API ตัวแรกกัน
      • 4.Verbs
      • 5.Swagger เพื่อคู่ API
      • 6.การใช้ Model
      • 7.เรียก Web API ผ่าน Postman
      • 8.มาจัดกลุ่ม API กัน (1/2)
      • 9.มาจัดกลุ่ม API กัน (2/2)
  • Software Design
    • 🤴Design Patterns
      • 🦈Creational patterns
        • Abstract Factory
        • Builder
        • Factory Method
        • Prototype
        • Singleton
      • 🦈Structural patterns
        • Adapter
        • Bridge
        • Decorator
        • Facade
        • Proxy
      • 🦈Behavioral patterns
        • Chain of Responsibility
        • Command
        • Iterator
        • Mediator
        • Memento
        • Observer
        • State
        • Strategy
        • Template Method
        • Visitor
Powered by GitBook
On this page
  • 🤔 Auto Scaling คืออะไร ?
  • 🤔 ทำไมต้องให้เซิฟเวอร์เพิ่มลดขนาดตัวเองได้ ?
  • 🤔 Auto Scaling จะมาช่วยยังไง ?
  • 🤔 การทำ Scaling มีแบบไหนบ้าง ?
  • Vertical
  • Horizontal
  • 🎥 วีดีโอ Auto Scaling อย่างละเอียด
  • 🤔 แล้วมันต้องทำยังไง ?
  • 🎯 บทสรุป

Was this helpful?

Export as PDF
  1. Cloud Computing
  2. Microsoft Azure 101

Auto Scaling

เซิฟเวอร์ไม่ล่ม ยืดหดได้ดั่งใจหมาย เพื่อรอบรับผู้ใช้ปริมาณมากๆ

PreviousGuideline for Cloud scalingNextAzure App Services

Last updated 5 years ago

Was this helpful?

เคยเป็นไหมเซิฟเวอร์บางวันก็ช้าบางวันก็เร็ว เพราะปริมาณคนเข้ามาใช้งานในแต่ละวันไม่เท่ากัน แล้วเราจะรับมือกับเหตุการณ์พวกนี้ยังไงดี วันนี้โดเรม่องขอเสนอตอน Auto Scaling ที่จะมาช่วยเพื่อนๆฝ่าอุปสรรค์เรื่องนี้ไปเองฮ๊าฟฟฟ

🤔 Auto Scaling คืออะไร ?

Auto Scaling คือการให้เซิฟเวอร์สามารถปรับเพิ่มหรือลดขนาดของเซิฟเวอร์เองตามความเหมาะสมที่เราตั้งไว้ เช่นมีคนเข้าเว็บเราเยอะแล้ว CPU เริ่มขึ้นสูง 70% กว่าล่ะ ให้ทำการขยายเซิฟเวอร์เพื่อให้รองรับคนปริมาณมาก แล้วพอตกกลางคืนที่ไม่มีคนเข้าเว็บเราแล้ว ก็ให้ลดขนาดของเครื่องลง เพื่อให้เซิฟเวอร์อยู่ในภาพที่เหมาะสมกับที่มันควรจะเป็นยังไงล่ะ

🤔 ทำไมต้องให้เซิฟเวอร์เพิ่มลดขนาดตัวเองได้ ?

สมมุติว่าในแต่ละวันเซิฟเวอร์ของเรามีลูกค้าเข้ามาใช้งานราวๆช่วงบ่ายจนถึงช่วงเย็นๆ ส่วนพอตกดึกก็จะมีบ้างแต่ไม่เยอะมากเท่าไหร่ เซิฟเวอร์ของเราก็น่าจะมีกราฟเป็นตามรูปด้านล่างนี้ตลอดทั้งเดือน

ซึ่งจากรูปจะเห็นว่า ถ้าเราจะให้เซิฟเวอร์สามารถรองรับผู้ใช้งานเท่านี้ตลอดเวลา ตัวเซิฟเวอร์ที่เราเปิดอยู่ก็จะต้องมีศักยภาพอยู่ราวๆเส้นสีม่วง (Provisioned capacity) ตามรูปด้านบนเป็นอย่างน้อยถึงจะรับผู้ใช้ที่มีพฤติกรรมแบบนี้ได้

แต่ในความเป็นจริงลูกค้าที่เข้ามาใช้งานมันไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปนะซิ เช่น ช่วงเทศกาลต่างๆแบบวันปีใหม่ไรงี้ ลูกค้าจะรุมกรูเข้ามาใช้งานอย่างโถมกระหน่ำทำให้กราฟเป็นตามรูปด้านล่าง

ปัญหาที่เกิดขึ้นคือถ้าเราจะรับลูกค้าปริมาณขนาดนี้ นั่นหมายความว่าตัวเซิฟเวอร์เราจะต้องมีศักยภาพอย่างน้อยเท่า เส้นสีม่วงด้านบน (Provisioned capacity) ถึงจะรับผู้ใช้งานในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้ ซึ่งปัญหาของมันเราจะเห็นได้ว่า ถ้าเราเปิดเครื่องเท่าเส้นสีม่วงเลย มันจะเปลืองทรัพยากรโดยใช่เหตุ เพราะเครื่องเราใช้งานจริงๆแค่ 24% ในวันปรกติเท่านั้น แต่เราต้องจ่ายเงินค่าเครื่องเต็มๆทั้งๆที่เครื่องยังทำงานได้อีก 76% นั่นเอง

เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปรกติที่พบได้ทั่วไป แล้วปรกติเราก็จะให้คนมานั่งดูว่าเมื่อไหร่ที่ควรจะขยายเครื่องเมื่อไหร่ควรจะลดเครื่องซึ่งมันไม่สะดวกเลย แถมบางทีมี Human error ขยายแล้วลืมลดไรงี้อีก ดังนั้นในรอบนี้เราจะใช้ Auto Scaling มาช่วยแก้ปัญหาปวดหัวแบบนี้ออกจากชีวิตเราเสียที

🤔 Auto Scaling จะมาช่วยยังไง ?

จากปัญหาที่ว่ามา เมื่อเราใช้ Auto Scaling สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ตัวเซิฟเวอร์จะสามารถ เพิ่ม/ลด ขนาดของมันเองได้ โดยขนาดที่มันขยายออกจะเพียงพอต่อความต้องการของ traffic ที่เข้ามาพอดี และเมื่อไม่มีคนมาใช้งานแล้ว ตัวเซิฟเวอร์ก็จะปรับลดขนาดลงมาเป็นขนาดปรกติให้เองอัตโนมัติ ทำให้เราสามารถลดภาระที่ให้คนมาคอยตรวจดูแล้วปล่อยเซิฟเวอร์ให้มันดูแลตัวมันเองได้ยังไงล่ะ

🤔 การทำ Scaling มีแบบไหนบ้าง ?

เมื่อพูดถึงการทำ Scaling นั้นในคลาว์จะมี 2 รูปแบบให้เราเลือกเล่นครับ คือ Horizontal กับแบบ Vertical ซึ่งทั้ง 2 แบบจะจะต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยดังนี้

Vertical

ภาษาไทยคือการขยายในแบบแนวดิ่ง ซึ่งมันเป็นการอัพเกรด/ดาวโกรดเซิฟเวอร์โดยการเพิ่มความแรงให้กับเซิฟเวอร์ เช่น เพิ่ม CPU, Ram, Disk อะไรพวกนี้ ซึ่งมันจะทำให้เซิฟเวอร์สามารถรับการประมวลผลที่หนักๆได้มากขึ้น

Horizontal

ภาษาไทยคือการขยายในแนวขวาง ซึ่งมันเป็นการเพิ่มจำนวนเครื่องเซิฟเวอร์ให้มากขึ้น แล้วกระจายงานออกไปให้เครื่องต่างๆช่วยกันทำงาน

🎥 วีดีโอ Auto Scaling อย่างละเอียด

🤔 แล้วมันต้องทำยังไง ?

เนื่องด้วยเวลาจำกัดในรอบนี้ผมขอให้ดูวีดีโอพาทำ Auto Scaling ทั้งแบบ Manual และแบบ Auto บน Azure แทนละกันนะครับ ง่ายนิดเดียว

🎯 บทสรุป

เราสามารถตั้งให้เซิฟเวอร์เพิ่มลดขนาด หรือเพิ่มลดจำนวนของตัวมันเองได้โดยการตั้ง configuration ตามความเหมาะสมเพียงเท่านี้เราก็สามารถอุ่นใจในตัวเซิฟเวอร์ของเราว่ามันสามารถรับโหลดงานปริมาณมากๆได้แล้วโดยที่เซิฟเวอร์จะรับไหว

ข้อแนะนำ ในการใช้งานจริงบางทีเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเราควรจะตั้งค่าให้เซิฟเวอร์แบบไหนดีถึงจะเหมาะสม ซึ่งผมแนะนำว่าให้ดูกราฟการใช้งานเซิฟเวอร์ย้อนหลังว่า พฤติกรรมการทำงานของเซิฟเวอร์เป็นอย่างไรแล้วเราค่อยดูว่ามันมีปัจจัยอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องแล้วค่อยพิจารณาว่าควรจะตั้งค่าแบบไหนอีกทีครับ

👶
สีฟ้าคือ Auto Scaling จะทำการขยายเซิฟเวอร์เมื่อ traffic สูงขึ้น และจะลดขนาดเมื่อ traffic ต่ำลงเองอัตโนมัติ